วันอังคารที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

ฉีดวัคซีนโรคหัด, หัดเยอรมัน 麻しん、風しん(MR)

หลังจากฉีด ヒブ、小児肺炎球菌(追加)ไปเมื่อวันที่ 7 ก็เว้น 1 อาทิตย์ถึงจะฉีดหัดได้ แต่เราไปเมืองไทย เลยมาฉีดวันนี้ วัคซีนนี้ก็ไม่ต้องโทรจอง พาเจ้าหนูไปฉีดได้เลย เอกสารที่ยื่นให้ก็จะมี
1. สมุดสุขภาพแม่และเด็ก
2. บัตรคนไข้
3. บัตรประกันของเจ้าหนู
4. 予診票

นั่งรอสักพัก ก็ถึงคิว คุณหมอฉีดวัคซีนให้ เจ้าหนูไม่ร้องไห้เลย เก่งมาก ๆ  ^^
หลังจากฉีดก็รอดูอาการ 30 นาที ก็กลับบ้านได้

ครั้งนี้ก็ไม่มีค่าใช้จ่ายในการฉีด
หลังจากนี้อีก 4 อาทิตย์ก็พามาฉีดอีสุกอีใส


วันศุกร์ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

ขึ้นเครื่องบินกลับญี่ปุ่นของเจ้าหนู (ณ 1 ขวบ 12 วัน)

ใช้ของ TG 642 ตอนเช็คอินก็มีถามเจ้าหน้าที่ว่าสามารถล็อกที่นั่งไม่ให้คนอื่นมานั่งด้วยได้มั้ย เจ้าหน้าที่ก็บอกว่าเต็มหมด เจ้าหน้าที่เสนอเป็นที่แถวหน้าที่สามารถวางเปลนอนได้ ก็เลยเปลี่ยนมา แต่เอาเข้าจริง ๆ เปลนอนก็ใช้ไม่ได้ เพราะเจ้าหนูสูงเกิน 65 เซนแล้ว (แอร์มาถามส่วนสูง น้ำหนัก วันเกิด แล้วก็บอกว่าใช้เปลนอนไม่ได้ เพราะได้ถึง 65 เซน) แล้วทำไมเจ้าหน้าที่เช็คอินไม่บอกตอนนั้นเนอะ จะได้ไม่ต้องเปลี่ยน เพราะที่พักแขนก็ดึงขึ้นไม่ได้ เจ้าหนูก็เลยไม่ได้เหยียดขาเลย แต่จริงๆ พอเครื่องออก ที่นั่งว่าง แบบไม่มีคนนั่งเลยก็เหลืออยู่อ่ะ ทำไมเจ้าหน้าที่ถึงบอกว่าเต็ม งง ดีที่ได้แอร์มาถามว่าจะย้ายมั้ย เลยช่วยให้คนที่นั่งกับพวกเราย้ายไปที่นั่งที่วาง ไม่งั้นก็นั่งเบียด ๆ กันไป
แล้วก่อนขึ้นเครื่อง ก็เป็นแบบต้องนั่งรถไปที่เครื่องบิน แล้วก็ขึ้นบันไดขึ้นเครื่อง เป็นประสบการณ์ครั้งแรกเลยที่ขึ้นเครื่องในลักษณะแบบนี้

ก่อนขึ้นเครื่องเจ้าหนูก็หลับอยู่แล้ว ก็เลยหลับยาวจนถึงญี่ปุ่นเลย แต่มีตื่นมากินนม 2 ครั้ง แล้วก็หลับต่อ
ข้าวเช้าบนเครื่องไม่ได้กินกันเลย เพราะหลับกันอยู่ คุณซูเลยไม่รับด้วยอีก 1 คน


วันพุธที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

ซื้อกระเป๋าตังค์เป็นเซ็ทคู่ ^0^

คุณซูอยากได้กระเป๋าตังค์ใหม่ + ของเราก็เก่าหนังเริ่มเสียหล่ะ ก็เลยซื้อด้วยเลย
ยี่ห้อนี้ก็ทนดีเหมือนกัน แต่ราคาแพงจากเดิมที่เคยซื้อมาเยอะเลย
ก็ได้รับส่วนลดเพราะคุณซูเป็นคนต่างชาติ 5 เปอร์
+ ใช้คะแนนในบัตรเครคิต ก็ได้รับส่วนลดเพิ่ม
สรุปลดไปเกือบพันบาท ดีใจจังเลย

ใบเล็ก 2,200 บาท
ใบใหญ่ 3,400 บาท
เหลือที่ต้องจ่าย 4,655 บาท



วันจันทร์ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

เพิ่มชื่อเจ้าหนูเข้าทะเบียนบ้านที่ไทย

กลับไปไทยคราวนี้ก็มีต้องทำเรื่องเพิ่มชื่อเจ้าหนูเข้าทะเบียนบ้าน ก็มีหลายคนบอกมาว่าถ้าเป็นเด็กผู้ชายก็ไม่ต้องเพิ่มก็ได้ เพราะเกี่ยวกับเรื่องการเกณฑ์ทหาร แต่ไหน ๆ ก็ทำเรื่องสูติบัตรแล้ว ก็ทำเรื่องนี้ด้วยเลยดีกว่า ท้ายที่สุดก็ให้เจ้าหนูเป็นคนเลือกเองว่าจะสัญชาติไทยหรือญี่ปุ่น
ก่อนหน้าที่จะกลับไทย เราก็โทรไปที่สำนักงานเขตที่จะไปเดินเรื่องก่อน เพราะรู้มาว่าแต่ละที่อาจจะไม่เหมือนกัน กรณีของเราเป็นเขตจอมทอง เจ้าหน้าที่ก็บอกว่าให้เตรียมเอกสารมาให้ตรวจสอบก่อน แล้วหลังจากนั้น 1 อาทิตย์ค่อยพาเจ้าบ้าน พยาน ตัวเรา แล้วก็เจ้าหนูมาด้วย แต่ว่าเรากลับญี่ปุ่นพอดี มาอีกทีอาจจะอีกนาน เจ้าหน้าที่ก็บอกว่าตอนนั้นค่อยพามาก็ได้

เอกสารที่เรายื่นไปก็จะมี
1. สำเนาสูติบัตรเจ้าหนู
2. สำเนาพาสปอร์ตไทยเจ้าหนู (หน้ารูปถ่าย + หน้าที่ปั้มวันที่เข้าเมืองไทย)
3. สำเนาพาสปอร์ตตัวเรา (หน้ารูปถ่าย + หน้าที่ปั้มวันที่เข้าเมืองไทย)
4. สำเนาพาสปอร์ตคุณซู (หน้ารูปถ่าย)
5. สำเนาทะเบียนบ้านตัวเรา
6. สำเนาทะเบียนสมรส + สำเนารับรอง "นาง" + สำเนาเปลี่ยนนามสกุลของตัวเรา
7. สำเนาบัตรประชาชนตัวเรา
8. สำเนาบัตรประชาชน + ทะเบียนบ้านของเจ้าบ้าน
9. สำเนาบัตรประชาชน + ทะเบียนบ้านของพยาน

เอกสารทั้งหมดเซ็นชื่อ รับรองสำเนาถูกต้อง + เขียนว่า "สำหรับเพิ่มชื่อ"

จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็ออกใบรับเอกสาร แล้วก็เขียนว่า ก่อนจะมาทำเรื่องอีกครั้งให้โทรติดต่อมาก่อนล่วงหน้า 1 อาทิตย์ และในวันที่มาทำให้เตรียมรูปถ่าย 1 นิ้วของเจ้าหนูมาด้วย 6 ใบ และให้ถ่ายพาสปอร์ตของตัวเราแล้วก็ของเจ้าหนูหน้าที่มีปั้มวันที่เข้าเมืองไทยล่าสุดมาด้วย


เจ้าหน้าที่ที่นี่โอเคเลย ใจดี น่าจะไม่มีปัญหาอะไร

วันศุกร์ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

ขึ้นเครื่องบินไปไทยของเจ้าหนู (ณ 1 ขวบ + 4 วัน)

เครื่องบินที่เราใช้จะเป็นของการบินไทย TG 641 ก่อนหน้าที่เดินทางก็มีโทรไปถามเรื่องอาหารของเจ้าหนู เขาก็จะมีให้เลือกเป็นแบบขวด หรือไม่ก็เป็นเหมือนของผู้ใหญ่แต่สำหรับเด็ก เราเลยเลือกแบบชุดสำหรับเด็ก ปรากฏว่าเจ้าหนูยังกินไม่ได้ เพราะน่าจะเป็นของเด็กโตมากกว่า ดีที่เราเอาอาหารสำหรับเจ้าหนูติดกระเป๋าไปด้วย
ตอนที่มาเช็คอิน เจ้าหน้าที่บริการดีมาก มีการล็อกที่นั่งอีกที่ให้ด้วย (เป็นที่นั่ง 3 3 3) ก็สบายดีเจ้าหนูเลยได้นั่งเล่นบ้าง นอนแบบเหยียดขาเต็มที่ได้ 
ระยะเวลา 6 ชั่วโมงที่เดินทา่งไปไทย เจ้าหนูก็เล่น แล้วก็นอนหลับไปอีก 3 ชั่วโมง มีเปลี่ยนผ้าอ้อมในห้องน้ำ 2 ครั้ง คือตอนเครื่องบินขึ้น กับตอนจะถึงไทย
ของเล่นที่เอาไปก็จะไม่เชิงของเล่นอ่ะนะ ก็จะมีเทปกาว แว่นตา เชือก ถุงเท้า ก็โอเคนะ เจ้าหนูก็สนใจเล่นได้นานพอสมควร