กลับไปไทยคราวนี้ก็มีต้องทำเรื่องเพิ่มชื่อเจ้าหนูเข้าทะเบียนบ้าน ก็มีหลายคนบอกมาว่าถ้าเป็นเด็กผู้ชายก็ไม่ต้องเพิ่มก็ได้ เพราะเกี่ยวกับเรื่องการเกณฑ์ทหาร แต่ไหน ๆ ก็ทำเรื่องสูติบัตรแล้ว ก็ทำเรื่องนี้ด้วยเลยดีกว่า ท้ายที่สุดก็ให้เจ้าหนูเป็นคนเลือกเองว่าจะสัญชาติไทยหรือญี่ปุ่น
ก่อนหน้าที่จะกลับไทย เราก็โทรไปที่สำนักงานเขตที่จะไปเดินเรื่องก่อน เพราะรู้มาว่าแต่ละที่อาจจะไม่เหมือนกัน กรณีของเราเป็นเขตจอมทอง เจ้าหน้าที่ก็บอกว่าให้เตรียมเอกสารมาให้ตรวจสอบก่อน แล้วหลังจากนั้น 1 อาทิตย์ค่อยพาเจ้าบ้าน พยาน ตัวเรา แล้วก็เจ้าหนูมาด้วย แต่ว่าเรากลับญี่ปุ่นพอดี มาอีกทีอาจจะอีกนาน เจ้าหน้าที่ก็บอกว่าตอนนั้นค่อยพามาก็ได้
เอกสารที่เรายื่นไปก็จะมี
1. สำเนาสูติบัตรเจ้าหนู
2. สำเนาพาสปอร์ตไทยเจ้าหนู (หน้ารูปถ่าย + หน้าที่ปั้มวันที่เข้าเมืองไทย)
3. สำเนาพาสปอร์ตตัวเรา (หน้ารูปถ่าย + หน้าที่ปั้มวันที่เข้าเมืองไทย)
4. สำเนาพาสปอร์ตคุณซู (หน้ารูปถ่าย)
5. สำเนาทะเบียนบ้านตัวเรา
6. สำเนาทะเบียนสมรส + สำเนารับรอง "นาง" + สำเนาเปลี่ยนนามสกุลของตัวเรา
7. สำเนาบัตรประชาชนตัวเรา
8. สำเนาบัตรประชาชน + ทะเบียนบ้านของเจ้าบ้าน
9. สำเนาบัตรประชาชน + ทะเบียนบ้านของพยาน
เอกสารทั้งหมดเซ็นชื่อ รับรองสำเนาถูกต้อง + เขียนว่า "สำหรับเพิ่มชื่อ"
จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็ออกใบรับเอกสาร แล้วก็เขียนว่า ก่อนจะมาทำเรื่องอีกครั้งให้โทรติดต่อมาก่อนล่วงหน้า 1 อาทิตย์ และในวันที่มาทำให้เตรียมรูปถ่าย 1 นิ้วของเจ้าหนูมาด้วย 6 ใบ และให้ถ่ายพาสปอร์ตของตัวเราแล้วก็ของเจ้าหนูหน้าที่มีปั้มวันที่เข้าเมืองไทยล่าสุดมาด้วย
เจ้าหน้าที่ที่นี่โอเคเลย ใจดี น่าจะไม่มีปัญหาอะไร
เรื่องราวทั่วไปของแม่บ้านญี่ปุ่น กับลูกออทิสติกที่สอนอะไรหลาย ๆ อย่างให้กับแม่อย่างเรา
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
-
บัตรไซริวของเราจะหมดอายุในเดือนเม.ย. นี้ เราก็เลยหาข้อมูลดู สามารถยื่นก่อนหมดอายุล่วงหน้าได้ไม่เกิน 2 เดือน ก็เลยคำนวณดูว่า ก่อนหน้า 2 เดือ...
-
พอเข้าเดือนที่ 2 เจ้าหนูก็จะมีพัฒนาการ + ความเปลี่ยนแปลงตามนี้ 1. ขนตาเริ่มเป็นสีดำ คิ้วเริ่มเป็นรูปเป็นร่างมีขนดำ 2. ตอนกินนมเสร็จ จะรู้ส...
-
ในปีนี้วันที่ 10 - 18 ส.ค. ที่ญี่ปุ่นจะหยุดเนื่องจากเป็นช่วงโอะบ้ง บางบริษัทจะเริ่มหยุดตั้งแต่ 13-18 ก็มี ในช่วงนี้ ชาวญี่ปุ่นจะมีความเชื่อ...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น