แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ไซริวการ์ด และบัตรต่าง ๆ ที่ญี่ปุ่นออกให้ แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ไซริวการ์ด และบัตรต่าง ๆ ที่ญี่ปุ่นออกให้ แสดงบทความทั้งหมด

วันศุกร์ที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2560

ต่ออายุไซริวการ์ด 2017

ไซริวการ์ดของเราจะหมดอายุสิ้นปีนี้ หลังจากที่ขอต่ออายุไปเมื่อครั้งที่แล้ว แล้วก็ได้มา 3 ปี
ครั้งนี้ที่ไปยื่นเอกสารต่ออายุไซริวการ์ดเมื่อวันที่ 6 ต.ค. 2017 (สามารถยื่นล่วงหน้าได้ไม่เกิน 3 เดือน)
 วันนี้ (21 ต.ค.) ก็มีไปรษณียบัตรมา เป็นไปรษณีย์ที่เจ้าหน้าที่ให้เราเขียนจ่าหน้าชื่อที่อยู่ของตัวเอง
ก็ใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์หลังจากยื่น
ก็ต้องไปดูกันว่าจะได้กี่ปี ครั้งนี้เราขอไป 5 ปี

ในไปรษณียบัตรก็เขียนว่าให้นำเอกสารดังไปนี้
1. ไปรณียบัตรนี้
2. พาสปอร์ต
3. ไซริวการ์ด
4. อากรแสตมป์ 4000 เยน ซื้อได้ที่ที่ทำการไปรษณีย์


วันที่ 21 ต.ค. ได้ไปรษณียบัตรมา ให้ไปรับภายในวันที่ 6 พ.ย. 2017

31 ต.ค. ไปรับ ปรากฏว่าได้แค่ 3 ปี เฮ้อ เซ็งเลย









วันพุธที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

ทำ Passport ของตัวเองเล่มใหม่ แบบวันหมดอายุตรงกับวันที่จะเดินทางกลับญี่ปุ่นพอดี

เราจะไปเมืองไทยช่วงเดือน ก.ค. 2017 ก่อนหน้านั้นที่จองตั๋ว หรืออะไร ก็ไม่ได้เช็ควันหมดอายุใน Passport เลยไม่ได้เอะใจอะไร มารู้ตัวอีกทีคือตอนเขียนใบตรวจคนเข้าเมืองของที่ไทยในตอนเช้าของวันเดินทาง วันหมดอายุวันเดียวกับวันกลับ  ตกใจมาก จะออกจากญี่ปุ่นได้มั้ยเนี่ย ก็เดินทางไปนาริตะทั้งแบบนั้นแหล่ะ เพราะทำอะไรไม่ได้แล้วนี่หน่า


ตอนเช็คอินโหลดกระเป๋า พนักงานก็เตือนว่าจะหมดอายุแล้วนะคะ  ก็ไม่ได้พูดอะไรมาก
ตอนเข้าเมืองไทย เจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้พูดอะไร
พอมาถึงโรงแรมก็รีบหาข้อมูลเลย มาเจอเรื่องทำเร่งด่วนได้ แล้วก็มีให้จองคิวแบบออนไลน์ รีบจองเลยช่วง 10 โมง
วันรุ่งขึ้นรีบไปกรมกงสุลเลย ทำแบบเร่งด่วน ยอมเสีย 3000 บาท ไปยื่นเรื่องตอนเช้าแล้วก็รอรอหลังจากบ่าย 2
สิ่งที่เอาไปด้วย
1. บัตรประชาชนตัวจริง
2. Passport เล่มปัจจุบัน


กรอกแบบฟอร์ม แล้วก็ยื่นให้พนักงาน รอคิว ถ่ายรูปที่โต๊ะนั่งกับพนักงานตรงนั้นเลย จ่ายเงิน เอาใบเสร็จพร้อม Passport  ไปยื่นอีกที่นึง แล้วก็รอหลังบ่าย 2 พร้อมถือบัตรประชาชนไปรับ
ระหว่างรอก็พาเจ้าหนูกับคุณซูไปเซนทรัล ไปดู ๆ อะไร ทานข้าว เล่น




โชคดีที่มีระบบเร่งด่วน ไม่งั้นคงต้องเสียค่าตั๋วขากลับญี่ปุ่นฟรี


ขากลับที่สุวรรณภูมิขอดูเล่มเก่าด้วย
แต่ที่นาริตะ ยื่นเล่มเก่าด้วย ถามทำไมมี 2 เล่ม แล้วก็บอกว่าครั้งหน้าไม่ต้องยื่นเล่มเก่านะ





วันพุธที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

My number มาแล้ว

วันนี้ตอนค่ำ ๆ บุรุษไปรษณีย์มากดออดที่บ้าน ที่แท้มาส่งมายนัมเบอร์นี่เอง มีต้องใช้อิงคังประทับตรารับด้วย
ในซองก็จะมีส่วนของคุณซู เรา แล้วก็เจ้าหนู

วันจันทร์ที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2558

ต่ออายุใบขับขี่ญี่ปุ่น

ก่อนหน้าที่จะไปต่ออายุใบขับขี่ จะมีไปรษณีย์มาที่บ้านแจ้งเกี่ยวกับการต่ออายุใบขับขี่ ซึ่งรายละเอียดจะมีว่า
-ให้ไปต่อได้ตั้งแต่วันที่เท่าไหร่ถึงเท่าไหร่
-ฟังการอบรม 120 นาที
-บัตรที่จะได้มีอายุ 3 ปี
-เสียค่าธรรมเนียมรวม 3,850 เยน
-เอกสารที่ต้องนำไป
สำหรับเราที่นำเอาไปด้วยก็จะมี
1. จม. ฉบับนี้
2. ใบขับขี่
3. ใบไซริวการ์ด

พอไปถึงก็ไปที่ช่องต่ออายุ ยื่นจม. + ใบขับขี่ เจ้าหน้าที่ก็จะให้เอกสารมากรอก ก็จะมีบอกว่าให้กรอกที่ไหนบ้าง
จากนั้นก็ต่อคิวจ่ายเงิน นอกจากค่าธรรมเนียมแล้วก็จะมีเสียอีก 900 เยน เป็นค่าสามาชิกสมาคมคมนาคมความปลอดภัย (交通安全協会)
แล้วก็ไปต่อแถวเพื่อที่จะตรวจสอบสายตา พอถึงคิว ก็มียื่นใบไซริวการ์ดด้วย การทดสอบสายตาก็จะเป็นให้ดูตัวอักษร C ว่าหงายขึ้น ลง ซ้าย ขวา จากนั้นก็เอาเอกสารไปยื่นให้กับเจ้าหน้าที่ตามที่เจ้าหน้าที่ทดสอบสายตาบอก รอเรียกชื่อก็ขึ้นไปถ่ายรูป
ถ่ายรูปเสร็จก็เอาเอกสารที่ได้ทั้งหมด ไปให้กับเจ้าหน้าที่อีกที่นึง (จะมีเครื่องหมายบอกว่าให้ไปตามนี้ + กับเจ้าหน้าที่ก็จะบอกประกอบด้วย)
ที่นี่จะเป็นการบอกว่าให้ไปเข้าอบรมที่ห้องเบอร์อะไร ของเราได้เบอร์ 1 ก็รอเวลาเริ่มอบรม  รอบของเรา 11.25 - 13.25น. เบรค 10 นาที ในการอบรมก็จะมีบรรยาย + ให้ดูวีดีโอ 2 ครั้ง
พออบรมเสร็จก็จะให้ใบขับขี่ที่ห้องอบรมนี้เลย
ใบขับขี่ก็จะมีอายุ 3 ปี เปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีน้ำเงิน


ช่วงที่เราอบรม เจ้าหนูก็ให้คุณซูเป็นคนดู มีงอแงนิดหน่อย เก่งจริงๆ เลย (ปกติห่างแม่เป็นไม่ได้ สงสัยคงเริ่มโตแล้วมั้ง) พอเห็นหน้าเราก็ร้องดีใจให้อุ้มเลย (ฝ่ายแม่นี่คิดถึงสุด ๆ)




วันจันทร์ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

เพิ่มชื่อเจ้าหนูเข้าทะเบียนบ้านที่ไทย

กลับไปไทยคราวนี้ก็มีต้องทำเรื่องเพิ่มชื่อเจ้าหนูเข้าทะเบียนบ้าน ก็มีหลายคนบอกมาว่าถ้าเป็นเด็กผู้ชายก็ไม่ต้องเพิ่มก็ได้ เพราะเกี่ยวกับเรื่องการเกณฑ์ทหาร แต่ไหน ๆ ก็ทำเรื่องสูติบัตรแล้ว ก็ทำเรื่องนี้ด้วยเลยดีกว่า ท้ายที่สุดก็ให้เจ้าหนูเป็นคนเลือกเองว่าจะสัญชาติไทยหรือญี่ปุ่น
ก่อนหน้าที่จะกลับไทย เราก็โทรไปที่สำนักงานเขตที่จะไปเดินเรื่องก่อน เพราะรู้มาว่าแต่ละที่อาจจะไม่เหมือนกัน กรณีของเราเป็นเขตจอมทอง เจ้าหน้าที่ก็บอกว่าให้เตรียมเอกสารมาให้ตรวจสอบก่อน แล้วหลังจากนั้น 1 อาทิตย์ค่อยพาเจ้าบ้าน พยาน ตัวเรา แล้วก็เจ้าหนูมาด้วย แต่ว่าเรากลับญี่ปุ่นพอดี มาอีกทีอาจจะอีกนาน เจ้าหน้าที่ก็บอกว่าตอนนั้นค่อยพามาก็ได้

เอกสารที่เรายื่นไปก็จะมี
1. สำเนาสูติบัตรเจ้าหนู
2. สำเนาพาสปอร์ตไทยเจ้าหนู (หน้ารูปถ่าย + หน้าที่ปั้มวันที่เข้าเมืองไทย)
3. สำเนาพาสปอร์ตตัวเรา (หน้ารูปถ่าย + หน้าที่ปั้มวันที่เข้าเมืองไทย)
4. สำเนาพาสปอร์ตคุณซู (หน้ารูปถ่าย)
5. สำเนาทะเบียนบ้านตัวเรา
6. สำเนาทะเบียนสมรส + สำเนารับรอง "นาง" + สำเนาเปลี่ยนนามสกุลของตัวเรา
7. สำเนาบัตรประชาชนตัวเรา
8. สำเนาบัตรประชาชน + ทะเบียนบ้านของเจ้าบ้าน
9. สำเนาบัตรประชาชน + ทะเบียนบ้านของพยาน

เอกสารทั้งหมดเซ็นชื่อ รับรองสำเนาถูกต้อง + เขียนว่า "สำหรับเพิ่มชื่อ"

จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็ออกใบรับเอกสาร แล้วก็เขียนว่า ก่อนจะมาทำเรื่องอีกครั้งให้โทรติดต่อมาก่อนล่วงหน้า 1 อาทิตย์ และในวันที่มาทำให้เตรียมรูปถ่าย 1 นิ้วของเจ้าหนูมาด้วย 6 ใบ และให้ถ่ายพาสปอร์ตของตัวเราแล้วก็ของเจ้าหนูหน้าที่มีปั้มวันที่เข้าเมืองไทยล่าสุดมาด้วย


เจ้าหน้าที่ที่นี่โอเคเลย ใจดี น่าจะไม่มีปัญหาอะไร

วันพฤหัสบดีที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2558

ได้รับ passport ไทยของเจ้าหนูแล้ว

วันนี้ไปรษณีย์มากดกริ่งที่บ้าน.แล้วก็บอกมีค่าส่ง.710เยน.ที่แท้เป็น.passport. ไทยของเจ้าหนูนี่เอง.ได้เร็วจัง.
เปิดดูตรงลายเซ็น อะไรจุด.ๆดำ ๆ. ตอนแรกคุณซูคิดว่าเป็นหยดหมึก.555 อันนั้นเป็นลายนิ้วมือของเจ้าหนูเอง. น่ารักดีเล็กๆ

วันพฤหัสบดีที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

ไปรับ Passport ญี่ปุ่นของเจ้าหนู

ในใบนัดรับเขาเขียนว่าสามารถมารับได้ตั้งแต่วันนี้ เราก็เลยไปเลยช่วงเช้า ไปถึงก็ได้ติดต่อกับเจ้าหน้าที่เลย ไม่มีคิวสำหรับเรื่องนี้ แต่ก่อนที่จะรับเราจะต้องติดอากรแสตมป์ (ซื้อในวันที่ทำ) ลงในใบนัดรับ เขาจะมีเขียนไว้ว่าช่องนี้สำหรับอากรประเภทไหนเราก็ติดตามที่เขาเขียนระบุเอาไว้

ก่อนที่จะได้ Passport เจ้าหน้าที่ก็จะถามเช็คข้อมูลส่วนตัวก่อนว่าตรงกันกับใน Passport หรือเปล่า แล้วก็ขอดูหน้าเจ้าหนูด้วยว่าเป็นคนเดียวกับในรูปไหม ตลกดี
ไม่มีปัญหาอะไร เราก็เป็นคนเซ็นรับแทน

พอมาดูในเล่ม Passport ตรงส่วนของลายเซ็น เขาสแกนที่เราเซ็นไว้ตอนที่ทำเรื่อง ดีนะที่เขียนเป็นตัวคันจิ (จะได้ดูเป็นญี่ปุ่นหน่อย) มิน่าตอนนั้นเจ้าหน้าที่ให้ดูตัวอย่างการเซ็น มีทั้งแบบภาษาอังกฤษ ตัวพิมพ์ใหญ่ พิมพ์เล็กให้เราเลือกว่าจะเซ็นแบบไหน 

เล่ม Passport ของเจ้าหนูเป็นสีกรมท่า คงเป็นเพราะ 5 ปี



วันอังคารที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

ทำ Passport ไทยให้เจ้าหนู

หลังจากไปทำ Passport ญี่ปุ่นให้เจ้าหนูแล้วก็เลยไปทำของไทยให้ด้วย พอดีไปทำทีสถานทูตไทยที่โตเกียว คุณซูก็เลยไปด้วย ขับรถไป หาที่จอดรถยากมาก ๆ กว่าจะจอดได้วนอยู่เกือบครึ่งชั่วโมง
ที่นี่จะรับเรื่อง 9.00 -12.00 แต่ปิดรับบัตรคิว 11.30 ส่วนช่วงบ่ายก็ 13.30 - 15.00 แต่ปิดรับบัตรคิว 14.30

เอกสารที่เตรียมไป
ตามเว็บไซด์เลย (ตัวจริงไม่ต้องเอาไป แต่เราเอาไปด้วยเผื่อไว้ก่อน)
http://www.thaiembassy.jp/rte3/index.php?option=com_content&view=article&id=1&Itemid=8#1

ไปถึงก็ใช้เวลาไม่ถึง 30 นาที เจ้าหน้าที่ก็บริการดีมาก
เสียค่าธรรมเนียม 9000 เยน
ส่วนเล่มเราให้จัดส่ง แต่จะเป็นระบบเรียกเก็บปลายทาง
ใช้เวลาประมาณ 4 อาทิตย์

ในวันนี้เจ้าหนูมีปั้มลายนิ้วมือด้วย 2 ที่ ตลกดี ทารกต้องปั้มลายนิ้วมือแล้ว





วันพฤหัสบดีที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

ทำ Passport ญี่ปุ่นให้เจ้าหนู

หลังจากวันหยุดโกลเด้นวีคผ่านไป เราก็ไปยื่นเรื่องทำ Passport ญี่ปุ่นของเจ้าหนูที่สำนักงานเขต ซึ่งเวลาที่เขารับทำ 9.00-16.30 น.  เอกสารที่เตรียมไปก็จะมี

1. ใบคำร้องขอทำ Passport (一般旅券発給申請書)ซึ่งคุณซูไปเอามาก่อนหน้านี้ ก็จะมีวิธีการกรอกมาให้ด้วย ใบคำร้องนี้เราก็ให้คุณซูกรอกเท่าที่กรอกได้มาให้ก่อน ตรงไหนที่ไม่แน่ใจ ก็เว้นไว้ แล้วเราก็ถามเจ้าหน้าที่เอา

2.โคะเซคิโทฮง  1 ฉบับ (戸籍抄本)เอกสารฉบับนี้ก็ไปทำที่นั่นเลย ให้เจ้าหน้าที่เขาออกให้ทีเดียว มีค่าธรรมเนียม 450 เยน

3. รูปถ่าย 1 รูป เราไปถ่ายที่ห้าง  เพราะร้านถ่ายรูปทั่ว ๆ ไม่ค่อยเห็นอ่ะ ที่ร้าน 2 ใบ คิด 1600 เยน ก็จะมีถ่ายไปหลายใบ แล้วให้เรามาเลือก ส่วนที่เหลือ ถ้าเราจะเอา ทางร้านก็จะทำเป็น CD มาให้ ก็จะบวกเพิ่มอีก 500 เยน

4. เอกสารของเจ้าหนู ซึ่งตอนนี้ก็จะมีแค่บัตรประกันสุขภาพเท่านั้น ดังนั้นเจ้าหน้าที่เลยใช้เอกสารของเราเพิ่มเติม ตอนแรกขอ Passport ของเรา สักพักก็ถามว่ามีใบขับขี่ญี่ปุ่นหรือเปล่า เราก็ให้ไป เจ้าหน้าที่ก็เขียน ๆ ลงไปในใบคำร้อง

5. ใบไซริวการ์ดของเรา เจ้าหน้าที่จะเอาหมายเลขของบัตรไปเขียนที่ใบคำร้อง

ก็จะมีประมาณนี้ ใช้เวลาไม่นานเลย เช็ค ๆ เอกสารแล้วก็ออกใบนัดรับ จะใช้เวลาประมาณ 6 วัน (ไม่รวมวันหยุด)

ในวันนัดรับก็ให้เอาใบนัดรับ พร้อมติดอากรแสตมป์ 6000 เยน (4000 + 2000 เยน แยกอากร) ด้วย สามารถซื้อติดล่วงหน้าได้ที่สำนักงานเขต เราก็เลยซื้อ ณ วันนั้นเลย


วันศุกร์ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

ไปรับไซริวการ์ด

ตอนที่ไปยื่นต่ออายุไซริวการ์ด เจ้าหน้าที่ก็แนบใบให้ไปรับติดที่พาสปอร์ต สามารถรับได้ตั้งแต่วันที่ 17-25 พย.
ก่อนที่จะไปรับก็ไปซื้ออากรแสตมป์ 4000 เยนที่ไปรษณีย์
พอไปถึงก็ไปต่อแถว พอถึงคิวเราก็ยื่นพาสปอร์ต + ไซริวการ์ดให้เจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่ก็ให้ Certificate for Payment of Fee (手数料納付書)มา ให้ติดอากรแสตมป์ แล้วก็วงกลมที่ต่ออายุไซริวการ์ด แล้วก็เซ็นชื่อ จากนั้นก็รอคิวรับบัตรไซริวการ์ด
ครั้งนี้ได้ 3 ปี (ต่อขอขอไป 5 ปี) แล้วเจ้าหน้าที่ก็คืนบัตรเก่ามาให้ด้วย เราก็งง เพราะเหมือนครั้งที่แล้วไม่ได้คืนบัตรเก่ามาให้น้า เจ้าหน้าที่เลยบอกว่า เขาเจาะรูที่บัตรเก่าแล้ว  ก็ดีเหมือนกันจะได้เก็บบัตรเก่าไว้เป็นที่ระลึก


และสงสัยคงจะจริง เพราะเคยอ่านเจอที่คนไทยเขียนเกี่ยวกับเรื่องนี้ จะได้ 1ปี 1ปี 3ปี 5ปี ตามลำดับ
เพราะของเราก่อนมาญี่ปุ่นได้ 1 ปี พอต่อก็ได้ 1 ปี ครั้งนี้ได้ 3 ปี ครั้งต่อไปอาจจะลองยื่นถาวรกับ 5 ปี ดู

หน้าตาอากรจะเป็นแบบนี้


วันจันทร์ที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2557

ต่ออายุไซริวการ์ด ครั้งที่ 2

อายุวีซ่าในไซริวการ์ดที่ต่อครั้งที่แล้ว 1 ปี จะหมดอายุในเดือนธันวา ช่วงนี้ก็เลยเตรียมเอกสารเพื่อต่ออายุซึ่งในการยื่น ควรจะยื่นภายใน 3 เดือนก่อนที่ไซริวการ์ดจะหมดอายุ

เอกสารที่เราต้องเตรียมก็จะมี

1. ใบคำขอต่ออายุการอยู่ที่ญี่ปุ่น(在留期間更新許可申請書)

2. รูปถ่ายขนาด 4 ซม. x 3 ซม.  จำนวน 1 ใบ

3. โคะเซคิโทฮง ของคู่สมรสคนญี่ปุ่น (日本人の戸籍謄本) ที่มีรายการว่าได้จดทะเบียนสมรสกับเราลงบันทึกไว้   (อายุของเอกสาร 3 เดือนนับจากวันที่เอกสารออก) 1 ฉบับ

4. เอกสารรับรองการหัก ณ ที่จ่ายการเสียภาษีท้องที่(日本人の住民税の課税証明書) และหนังสือรับรองการจ่ายภาษี (納税証明書)( 1 ปี)      ของคู่สมรสคนญี่ปุ่น อย่างละ 1 ฉบับ

5. หนังสือค้ำประกันของคู่สมรสคนญี่ปุ่น(日本人の身元保証書) 1 ฉบับ

6. จูมิงเฮียวของคู่สมรสคนญี่ปุ่น (住民票)(ที่มีลงรายละเอียดของคนในครอบครัวทุกคน)
     (อายุของเอกสาร 3 เดือนนับจากวันที่เอกสารออก) 1 ฉบับ

7.พาสปอร์ต

8.ไซริวการ์ด

เอกสารข้อ 2, 7, 8 เป็นเอกสารของเรา
ส่วนเอกสารข้อ 3, 4, 6 เป็นเอกสารของคุณซู ขอได้ที่สำนักงานเขต
ส่วนเอกสารข้อ 5 เป็นเอกสารที่คุณซูเขียน แบบฟอร์มสามารถโหลดได้จากเว็ปไซด์
ส่วนเอกสารข้อ 1 โหลดจากเว็ปไซด์ กรอกที่คอมพิวเตอร์ได้เลย หรือถ้า Save ของปีที่แล้วไว้ ก็เอามาใช้ได้ เพียงแต่ต้องอัพเดทข้อมูล

สามารถดูรายละเอียดได้ตามลิ้งค์ด้านล่างนี้นะคะ

http://www.moj.go.jp/ONLINE/IMMIGRATION/ZAIRYU_KOSHIN/zairyu_koshin1.html

หลังจากที่เตรียมเอกสารครบคุณซูก็พาเราไปยื่นในวันนี้  ตอนแรกที่ไปถึงให้ยื่นเอกสารทั้งหมดที่ช่องที่ให้รับบัตรคิว ก็จะได้หมายเลขคิวมา รอเรียกคิวประมาณ 3 ชั่วโมงกว่า ๆ แต่ว่าพอถึงคิวก็ใช้เวลาไม่นาน เจ้าหน้าที่ก็ให้หมายเลขการรับเอกสาร และใบนัดรับมา ติดแนบในพาสปอร์ต นับดูแล้วใช้เวลาประมาณเกือบ 1 เดือนหลังจากที่ยื่นขอ แล้วก็คืนไซริวการ์ดมาให้ ซึ่งด้านหลังของไซริวการ์ ดก็มีการปั้มว่า 「在留期間更新許可申請中」 ซึ่งแปลว่า "อยู่ในระหว่างการดำเนินการขอต่ออายุการอยู่ต่อที่ญี่ปุ่น"

ในครั้งนี้เรายื่นขอต่ออายุ 5 ปี ไม่รู้ว่าจะได้วีซ่ากี่ปี เพราะครั้งที่แล้วยื่นขอ 3 ปีไป แต่ได้แค่ 1 ปี

ในวันที่ไปรับก็ต้องนำพาสปอร์ต ไซริวการ์ด, แล้วก็อากรแสตมป์ในส่วนค่าธรรมเนียม 4000 เยนซื้อได้ที่ไปรษณีย์ไปด้วย


วันพุธที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2557

ยื่นแจ้งเกิดเจ้าหนูที่สถานทูตไทยในญี่ปุ่น

พอเจ้าหนูครบเดือน คุณซูก็ให้รีบแจ้งเกิดเจ้าหนู ซึ่งจริง ๆ เราอยากรอให้ครบ 3 เดือนก่อน แต่ก็ตามใจคุณซูเขา
เอกสารที่เตรียมก็จะตามเว็บของสถานทูตเลย
http://www.thaiembassy.jp/rte3/index.php?option=com_content&view=article&id=146&Itemid=11

ก็เหมือนเดิม แบ่งหน้าที่กัน เอกสารที่เป็นทางด้านญี่ปุ่น คุณซูก็เป็นคนจัดการไป
สำหรับเรา ก็จะติดตรงทะเบียนบ้านที่ในเว็บเขียนไว้ว่า "สำเนาทะเบียนบ้านไทยตัวจริง หรือสำเนาที่มีตราอำเภอรับรองสำเนาถูกต้อง พร้อมสำเนา 1 ชุด" แต่เรามีแค่สำเนาอย่างเดียวก็เลยโทรไปถาม เจ้าหน้าที่บอกว่าใช้ได้

เตรียมเอกสารทุกอย่างครบแล้วก็ไปยื่น เจ้าหน้าที่ใจดีมาก แล้วตัวจริงที่เราเตรียมไปด้วย เจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้ขอดูของเรานะ (แต่ควรเตรียมไปจะดีที่สุด) ใช้เวลาแป๊บเดียวเอง แล้วก็มานั่งรอเรียกรับใบอะไรก็จำไม่ได้แล้วที่ช่องชำระเงิน แต่เราไม่ได้จ่ายเงินนะ ก็เป็นอันเสร็จกลับบ้านได้

อาทิตย์ต่อมาได้รับสตูบัตรของเจ้าหนูอีกที ก็จะเป็นการลงทะเบียนจ่ายเงินปลายทาง เสียค่าไปรษณีย์ลงทะเบียนไป 710 เยน



ตอนนี้เจ้าหนูก็จะมี 2 สัญชาติ ก็ไว้รอให้เขาโตอายุ 20 ปี แล้วให้เขาเลือกเองว่าอยากจะเป็นคนญี่ปุ่นหรือว่าคนไทย



วันศุกร์ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

แจ้งเกิด + ยื่นเรื่องเงินสงเคราะห์บุตร + ยื่นเรื่องค่ารักษาพยาบาลฟรีของเจ้าหนูที่สำนักงานเขตของญี่ปุ่น

วันที่ออกจากรพ. ทางรพ. ก็ให้ 出生証明書 (เอกสารรับรองการเกิด) มา ซึ่งเราจะต้องนำไปยื่นแจ้งเกิดภายใน 14 วันหลังจากที่เจ้าหนูเกิด แต่เราไม่ได้เป็นคนไปยื่นนะ คุณซูไปยื่นเอง
เอกสารที่จะต้องนำไปยื่นด้วยจะมี
1. เอกสารรับรองการเกิดที่รพ. ออกให้ (出生証明書)
2. สมุดสุขภาพแม่และเด็ก (母子健康手帳)
3. บัตรประกันสุขภาพของผู้ที่ยื่น
4. อิงคัง
5. แบบฟอร์มการแจ้งเกิด (出生届)
พอยื่นแล้วก็จะมีเขียนในสมุดสุขภาพแม่และเด็ก จะเขียนในหน้าแรกเป็นรายละเอียดของเจ้าหนู ว่าได้ยื่นเรื่องเรียบร้อยแล้ว 

ไหน ๆ ก็ไปยื่นแล้ว คุณซูก็เลยยื่นเรื่องเงินสงเคราะห์บุตร (เหมือนประกันสังคมบ้านเราอ่ะเนอะ) เราก็ไม่รู้ว่าคุณซูใช้เอกสารอะไรบ้าง แต่ที่คุณซูก๊อปปี้กลับมาจะมี
1. แบบยื่นเรื่องเงินสงเคราะห์บุตร (児童手当・特例給付 認定請求書)
2. ระบบของเงินสงเคราะห์บุตร (児童手当制度)
ซึ่งระบบนี้ อย่างอายุเจ้าหนู 0 ขวบ - ไม่เกิน 3 ขวบ ได้ 15,000 เยน
ตั้งแต่ 3 ขวบ - ก่อนที่จะจบประถม (ลูกคนแรก, คนที่ 2) ได้ 10,000 เยน 
ตั้งแต่ 3 ขวบ - ก่อนที่จะจบประถม (ตั้งแต่ลูกคนที่ 3) ได้ 15,000 เยน
มัธยมต้น ได้ 10,000 เยน
และจะไม่ได้จ่ายให้ทุกเดือน
อย่างส่วนของเดือน ต.ค. พ.ย. ธ.ค. ม.ค. จะจ่ายให้ในเดือนก.พ.
ส่วนของเดือน ก.พ. มี.ค. เม.ย. พ.ค. จะจ่ายให้ในเดือน มิ.ย.
และส่วนของเดือน มิ.ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. จะจ่ายให้ในเดือน ต.ค.

จากนั้นก็จะมีจม. มาจากทางสำนักงานเขตว่าเงินสงเคราะห์บุตรของเจ้าหนูจะเริ่มให้ตั้งแต่เดือนส.ค. ก็แสดงว่าในส่วนของเดือน ส.ค. กับ ก.ย. ก็คงเข้าบัญชีคุณซูในเดือนต.ค. อ่ะนะ

แล้วคุณซูก็คงทำเรื่องเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลฟรีของเจ้าหนูด้วยมั้ง เพราะมีบัตรสีชมพู ๆ (子ども医療費受給資格証) มาสำหรับยื่นใช้กับรพ. ที่ไม่ได้อยู่ในเขตที่อยู่อาศัย มีแสดงวันหมดอายุบัตรด้วย คืออีก 15 - 16 ปีข้างหน้าแหน่ะ

พอคุณซูกลับมาบ้านนอกจากเอกสารที่เกี่ยบกับด้านบนแล้ว คุณซูก็ให้เราเก็บเอกสารที่แสดงถึงหมายเลขของเจ้าหนูในจูมิงเฮียว 住民票 ด้วย

ระบบที่เกี่ยวกับเด็กที่เกิดมา รู้สึกว่าเยอะเหมือนกันเนอะ ก็ให้คุณซูเป็นคนจัดการไป ส่วนเราก็จะจัดการในส่วนที่เกี่ยวกับไทย ๆ  แบ่งหน้าที่กัน ^0^







วันศุกร์ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ไปรับใบไซริวการ์ด

วันที่ 15 ต.ค. 56 คุณซูพาเราไปต่ออายุไซริวการ์ด
http://jipathajapan.blogspot.jp/2013/10/blog-post_15.html

วันนี้ถึงกำหนดให้ไปรับหล่ะ
อากรแสตมป์ 4000 เยนเราไปซื้อที่นั่นเลย เพราะก็มีขายเหมือนกัน ไม่ได้ไปซื้อที่ไปรษณีย์
และสิ่งที่เอาไปในวันนี้ก็จะมี
1. บัตรไซริวการ์ด
2. พาสปอร์ต
3. อากรแสตมป์ 4000 เยน

จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็จะให้ติดอากรที่เอกสารแผ่นนี้ แล้วก็เซ็นชื่อ


จากนั้นก็รอคิว สักพักก็ได้บัตรไซริวใหม่มา ส่วนบัตรไซริวเดิม เจ้าหน้าที่ก็คืนมาให้ด้วย ดีจังจะได้เก็บไว้เป็นที่ระลึก
แต่ว่าอายุของการต่อครั้งนี้ เราขอไป 3 ปี แต่เขาให้มาแค่ 1 ปีเอง
ไม่เป็นไรปีหน้าขอใหม่ ^^

วันอังคารที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2556

ต่ออายุไซริวการ์ด

ระยะเวลาในไซริวการ์ด 1 ปีที่ได้มาจะหมดอายุในเดือนธันวา ช่วงนี้ก็เลยเตรียมเอกสารเพื่อต่ออายุ
ซึ่งในการยื่น ควรจะยื่นภายใน 3 เดือนก่อนที่ไซริวการ์ดจะหมดอายุ

เอกสารที่เราต้องเตรียมก็จะมี

1. ใบคำขอต่ออายุการอยู่ที่ญี่ปุ่น
2. รูปถ่ายขนาด 4 ซม. x 3 ซม.  จำนวน 1 ใบ
3. โคะเซคิโทฮง ของคู่สมรสคนญี่ปุ่น ที่มีรายการว่าได้จดทะเบียนสมรสกับเราลงบันทึกไว้
     (อายุของเอกสาร 3 เดือนนับจากวันที่เอกสารออก) 1 ฉบับ
4. เอกสารรับรองการหัก ณ ที่จ่ายการเสียภาษีท้องที่ และหนังสือรับรองการจ่ายภาษี ( 1 ปี)
     ของคู่สมรสคนญี่ปุ่น อย่างละ 1 ฉบับ
5. หนังสือค้ำประกันของคู่สมรสคนญี่ปุ่น 1 ฉบับ
6. จูมิงเฮียวของคู่สมรสคนญี่ปุ่น (ที่มีลงรายละเอียดของคนในครอบครัวทุกคน)
     (อายุของเอกสาร 3 เดือนนับจากวันที่เอกสารออก) 1 ฉบับ
7.พาสปอร์ต
8.ไซริวการ์ด

เอกสารข้อ 2, 7, 8 เป็นเอกสารของเรา
ส่วนเอกสารข้อ 3, 4, 6 เป็นเอกสารของคุณซู แต่เราก็สามารถไปขอแทนคุณซูได้ที่สำนักงานเขต
ส่วนเอกสารข้อ 5 เป็นเอกสารที่คุณซูเขียน แบบฟอร์มสามารถโหลดได้จากเว็ปไซด์
ส่วนเอกสารข้อ 1 โหลดจากเว็ปไซด์ กรอกที่คอมพิวเตอร์ได้เลย

สามารถดูรายละเอียดได้ตามลิ้งค์ด้านล่างนี้นะคะ

http://www.moj.go.jp/ONLINE/IMMIGRATION/ZAIRYU_KOSHIN/zairyu_koshin1.html

และ

http://www.moj.go.jp/ONLINE/IMMIGRATION/16-3.html

หลังจากที่เตรียมเอกสารครบคุณซูก็พาเราไปยื่นในวันนี้  ได้คิวสุดท้ายเลย รอเรียกคิวประมาณชั่วโมงกว่า ๆ แต่ว่าพอถึงคิวก็ใช้เวลาไม่นาน เจ้าหน้าที่ก็ให้หมายเลขการรับเอกสาร และใบนัดรับมา ติดแนบในพาสปอร์ต นับดูแล้วใช้เวลาประมาณ 1 เดือนหลังจากที่ยื่นขอ แล้วก็คืนไซริวการ์ดมาให้ ซึ่งด้านหลังของไซริวการ์ดก็มีการปั้มว่า 「在留期間更新許可申請中」 ซึ่งแปลว่า "อยู่ในระหว่างการดำเนินการขอต่ออายุการอยู่ต่อที่ญี่ปุ่น"

ในครั้งนี้เรายื่นขอต่ออายุ 3 ปี ตอนที่เจ้าหน้าที่ให้ใบนัดรับ ก็พูดว่าจะไม่มีการโทรศัพท์ไป ก็คงน่าจะไม่มีปัญหาอะไรในการขอนะคะ ^^

ในวันที่ไปรับก็ต้องนำพาสปอร์ต ไซริวการ์ด, แล้วก็อากรแสตมป์ในส่วนค่าธรรมเนียม 4000 เยนซื้อได้ที่ไปรษณีย์ไปด้วยค่ะ






วันอังคารที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

住基カード (Juu ki ka-do)の運用が2013年7月8日から始まります。

มีจดหมายจากสำนักงานเขตมาส่งที่บ้าน จ่าหน้าถึงคุณซู เราก็เปิดดูว่าเป็นซองอะไร

ข้างในจะมี 3 แผ่น ประกอบด้วย

1. จดหมายชี้แจงเกี่ยวกับเรื่องหมายเลขแสดงถิ่นที่อยู่
(住民票コード通知票についてのご案内)

2. ถาม-ตอบเกี่ยวกับเรื่องระบบ Network / บัตร แสดงถิ่นที่อยู่ 
「住基ネット・住基カードに関するQ&A」

3. เอกสารแจ้งหมายเลขแสดงถิ่นที่อยู่ของเรา 
(住基票コード通知票)

ซึ่งเนื้อหาที่เราอ่านดู จะบอกประมาณว่า ระบบ Network  ทะเบียนแสดงถิ่นที่อยู่ 「住基ネット」 ก็จะเริ่มใช้กับคนต่างชาติตั้งแต่ วันที่ 8 ก.ค. 56
และ การออก บัตรแสดงถิ่นที่อยู่ 「住基カード」 (Juu Ki Ka-do) ก็สามารถทำได้แล้ว ตั้งแต่วันที่ 8 ก.ค. 56 เช่นกัน
ซึ่งระบบ Network ทะเบียนแสดงถิ่นที่อยู่ 「住基ネット」 ที่ว่านี้ จะเป็นระบบที่สามารถยืนยันความเป็นเจ้าตัวจากการใช้ network ร่วมกันทั่วประเทศ  รับรองความสัมพันธ์ของผู้อาศัย
 
หมายเลขของบัตรแสดงถิ่นที่อยู่ จะเป็นตัวเลขสุ่มมีทั้งหมด 11 หลัก เป็นหมายเลขที่จำเป็นในการยืนยันความเป็นเจ้าตัว ใช้ร่วมกันทั่วประเทศโดยผ่านระบบ network ทะเบียนแสดงถิ่นที่อยู่

หน้าตาบัตรจะประมาณนี้

ที่มาของรูปนี้จากลิ้งค์นี้ค่ะ
http://news.mynavi.jp/news/2013/07/08/042/index.html

ของเราตอนนี้ก็มีหมายเลขที่ว่าแล้ว แต่คุยกับคุณซู ว่าจำเป็นต้องไปทำบัตรนี้มั้ย คุณซูก็บอกว่าไม่จำเป็น มีแค่ไซริวการ์ดอย่างเดียวก็น่าจะพอ ส่วนหมายเลขที่ทางสำนักงานเขตส่งมาก็ให้เก็บรักษาไว้ให้ดี