แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ โรงเรียนชั้นประถมที่ญี่ปุ่น แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ โรงเรียนชั้นประถมที่ญี่ปุ่น แสดงบทความทั้งหมด

วันอาทิตย์ที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2567

เพิ่มความรู้ให้ตัวเอง สำหรับสอนการบ้านให้ลูก

 วันนี้พาลูกชายไปขึ้นรถไฟ ไปห้างแถว ๆบ้านก่อนกะว่าถ้ามีเวลา วันหยุด จะค่อย ๆ พาเขาไปที่ที่ไกลขึ้นหน่อย  อยากให้เขาฝึกการขึ้นรถไฟไปไหนเองได้  เพราะส่วนใหญ่เรากับสามีจะขับรถพาเขาไป  พอเขาจะขึ้นป.4 รู้สึกว่าจะต้อง เตรียมอะไรหลาย ๆอย่าง 

อาจจะเพราะมีเรื่องม.ต้นที่เคยไปฟัง  ฟังแล้วลูกเรายังทำอะไรเองไม่ได้เยอะมาก เพราะฉะนั้นตั้งแต่นี้เลยต้องพยายามฝึกลูกให้มากกว่านี้

วันนี้เข้าร้านหนังสือได้ 2 เล่มนี้มา ก่อนอื่นเราต้องอ่านเลย เพราะตอนนี้ป.3 ตอนสอนการบ้านลูก จะมีปัญหามาก  ตอน ป.1 ป.2 ยังไม่ค่อยมีปัญหาเท่าไหร่. พอตอนป.3 นี่แหละ. อธิบายศัพท์ไม่ถูก. ได้แต่เขียนวิธีการให้ แต่ลูกเราเขาก็ยังไม่ค่อยเข้าใจอยู่ดี  เราเลยเริ่มหงุดหงิด  แล้วตามมาด้วยอารมณ์  สอนปนน้ำตา (ลูกชาย)   

ต่อไปเราคงต้องใจเย็นและศึกษาภาษาญี่ปุ่นให้มากกว่านี้








วันศุกร์ที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2567

ชุดของเด็ก ๆ (หญิง ชาย) ที่จะใส่ในวันปฐมนิเทศขึ้น ป.1 โรงเรียนประถมที่ญี่ปุ่น

ชุดของเด็ก ๆ (หญิง ชาย) ที่จะใส่ในวันปฐมนิเทศขึ้น ป.1 โรงเรียนประถมที่ญี่ปุ่นในเดือนเมษายน  ตอนนี้มีขาย น่ารักมาก ๆ ตอนลูกเราอนุบาล ไม่ได้ใส่ชุดแบบที่เขาขาย ทางโรงเรียนให้ใส่ชุดนักเรียนของโรงเรียนอนุบาลเลย แต่ตอนจะขึ้นป.1 ก็ไปหาซื้อชุดแบบนี้เหมือนกัน ลูกเราเป็นเด็กผู้ชาย ก็มีให้เลือกไม่เยอะเท่าไหร่ ก็คือใส่แบบสูท เลือกไม่ยากเลย แต่ของเด็กผู้หญิงน่ารัก ๆ ทั้งนั้นเลย เป็นเราก็คงเลือกไม่ถูกเหมือนกัน












 

วันพุธที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2567

่ชุดที่แม่แม่ใส่ตอนวันปฐมนิเทศที่โรงเรียนที่ญี่ปุ่น

 นี่ก็ใกล้จะปิดเทอมใหญ่กันแล้ว อย่างชั้นอนุบาล 3 ก็จะจบไปขึ้นป. 1  ชั้นป.6 ก็จะจบไปขึ้นชั้นม. ต้น

เด็กเข้าอนุบาล 1  กับเด็ก ป.1 (เอาจากประสบการณ์ตัวเองนะ) ก็จะไปเรียนในสภาพแวดล้อมใหม่ ๆ เพื่อนใหม่ ผู้ปกครองแม่แม่ก็ต้องไปหาซื้อเสื้อผ้ามาใส่ในตอนที่ลูกจะขึ้น อ. 1  ขึ้น ป.1  

แล้วตอนจบ อ.3 เราก็ไปเสื้อแค่สูทที่สีออกเทา ๆ มาใส่ตอนลูกจบชั้น อ. 3  

ตอน อ.1 กับ ป.1 เป็นการเข้าเรียน เราเลยเลือกสูทแบบสีครีม ๆ อ่อน ๆ 

ตอนนี้ทางร้านก็ขายชุดที่ว่านี้เยอะมาก เราเลยเก็บมาฝากเผื่อเป็นแนวเล็ก ๆ น้อย ๆ นะคะ





วันพฤหัสบดีที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2564

หนังสือและอุปกรณ์การเรียนสำหรับเด็ก ป.1 ของโรงเรียนประถมที่ญี่ปุ่น

หนังสือเรียนและอุปกรณ์ที่ใช้ตอนป.1 
(อุปกรณ์บางตัวก็ใช้ตลอดไม่เฉพาะแค่ตอนป.1)

กล่องใส่อุปกรณ์ วางไว้ใต้โต๊ะเรียน










แผ่นรอง กล่อง ดินน้ำมัน




กล่องดิอสอ โรงเรียนกำหนดมาให้ประมาณนี้




ดินสอให้ใช้ 6B





แผ่นรองเขียน  






อุปกรณ์การเรียนก็จะเก็บใส่กล่องนี้ กล่องนี้จะเป็นเหมือนลิ้นชัก เพราะจะวางไว้ช่องด้านล่างของโต๊ะเรียน จะเอาไปตอนโรงเรียนเปิดเทอม แล้วก็ใช้จนกว่าจะปิดเทอม เอากลับมาบ้าน พอเปิดเทอมใหม่ก็จะเอาไปที่โรงเรียน


วันพุธที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2563

รันโดะเซหรุ กระเป๋านักเรียนชั้นประถม (ランドセル)

พอลูกขึ้นอนุบาล 3 ผู้ปกครองก็จะเริ่มดู ๆ กระเป๋าให้ลูกกันแล้ว กระเป๋านักเรียนชั้นประถมที่ว่าก็จะเรียก

"รันโดะเซหรุ ランドセル" กระเป๋านี้ก็จะใช้ตั้งแต่ ป.1 - ป.6 ส่วนเรื่องสี ถ้าเป็นเมื่อก่อน เด็กผู้ชายก็จะใช้สีดำ  เด็กผู้หญิงก็จะใช้สีแดง แต่ในปัจจุบันก็มีให้เลือกหลายสีมาก แต่ของลูกเราก็เลือกสีดำ ^^


รูปจาก Google

ในตอนนั้นตอนที่ลูกเราอยู่ อ. 3 ก็จะมีคุณแม่คนหนึ่งมาแนะนำร้านให้กับเรา ชื่อร้าน Kandaya 

オーダーメイドランドセル|【公式】オーダーメイドランドセルの神田屋鞄製作所 (kandaya-kaban.net)

รูปจาก Google


โดยปกติแล้วก็จะมีการตั้งบูธ ランドセル โชว์ให้ดู แต่ตอนนั้นเป็นช่วงโควิด ก็จะไม่มีการมาจัดบูธอะไร เราก็ไปเลือกดูตามร้าน ตามห้าง สรุปก็มาได้ที่ร้านที่เพื่อนคนญี่ปุ่นแนะนำ 

กระเป๋าของร้านนี้ พอลูกเราสะพาย ก็โอเคนะ แบบ น้ำหน้ก อะไรก็โอเค ไม่หนักมาก มีบางร้านที่เราเคยไปลอง ก็รู้สึกว่าจะหนักกว่าของร้านนี้ น้ำหนักของกระเป๋าก็สำคัญมาก ๆ เพราะตอนที่สะพาย ลำพังตัวกระเป๋าก็มีน้ำหนักอยู่แล้ว แล้วพอใส่หนังสือไปอีก จะหนักมาก เพราะฉะนั้นเรื่องน้ำหนักของกระเป๋าเราก็ต้องดูเหมือนกัน




เราไปจองกระเป๋าของร้านนี้ตอนเดือน มิ.ย. (อยู่อนุบาล 3) แล้วกระเป๋าก็มาส่งให้เดือน ก.ย. แล้วก็ใช้สะพายจริงตอนเดือน เม.ย. (ขึ้นป. 1 วันปฐมนิเทศ) สะพายไปเพื่อไปรับหนังสือเรียนที่จะใช้ตอนป.1 กลับมา ลูกบ่นหนัก ๆ ก็อะนะน่าจะหนักอยู่เพราะหนังสือเรียน 9 เล่ม ใส่มาในกระเป๋า ^^

ราคากระเป๋าจำไม่ได้ว่า 65000 เยน หรือ 68000 เยน ถือว่าแพงเหมือนกัน แต่ใช้ 6 ปี ก็โอเค๊ ^^