เด็กนักเรียนที่ญี่ปุ่นส่วนใหญ่ทางโรงเรียนก็จะมีให้ซ้อมหนีภัย เพื่อให้เกิดการเรียนรู้ว่าถ้ามีอะไรเกิดขึ้น แล้วต้องทำยังไง สิ่งที่จะทำให้เกิดการเรียนรู้ ก็คือการซ้อมบ่อย ๆ นั่นเอง
เรื่องราวทั่วไปของแม่บ้านญี่ปุ่น กับลูกออทิสติกที่สอนอะไรหลาย ๆ อย่างให้กับแม่อย่างเรา
วันอังคารที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2568
วันพุธที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2568
เรื่องเล่าจากชั้นเรียนใหม่ (ชั้นเรียนของเด็กออทิสติก โรงเรียนประถมที่ญี่ปุ่น)
เรื่องเล่าจากชั้นเรียนใหม่
ตั้งแต่ ป.1 -ป.4 ผมก็เรียนคลาส 情緒学級(เป็นคลาสสำหรับเด็กพิเศษที่เรียนวิชาการได้ แต่มีปัญหาเรื่องการควบคุมอารมณ์ แต่อย่างที่หม่าม้าเคยพูดถึงครูประจำชั้น ป.4 ว่าเป็นยังไง สรุป พอขึ้น ป.5 ผมก็เปลี่ยนมาเรียนคลาส 知的学級 (เป็นคลาสสำหรับเด็กพิเศษ ที่เรียนวิชาการไม่ทันเพื่อน แต่เรื่องการควบคุมอารมณ์ ไม่มีปัญหา) ตอนป.4 คุณครูประจำชั้นคนเก่าบอกหม่าม้าว่าควรให้ผมเปลี่ยนคลาส ดูหม่าม้าป่ะป๊าก็ไม่ลังเลเลยที่จะเปลี่ยน เพราะถ้าขึ้น ป.5 แล้วต้องมาเจอเป็นครูประจำคนนี้อีก ป่ะป๊าหม้าม้า ก็คงเครียดไปอีก 1 ปี ^^
ได้เจอครูประจำชั้นคนใหม่ หม่าม้าป่ะป๊าขอ 面談 (พูดปรึกษาหารือ) ตั้งแต่เปิดเทอมเลย ( จริง ๆ 面談 จะเริ่มประมาณเดือน มิย.) คุณครูใจดี หาเวลาให้ได้คุยกัน
เรื่องที่คุยกัน
1. เรื่องนี้หม่าม้าขอร้องคุณครูเป็นอันดับแรกเลยก็คือการให้ใช้ Chromebook ขอให้ใช้เฉพาะการเรียนหรือที่จำเป็นเท่านั้น ไม่เอากลับบ้าน แต่มีการชาร์จ เลยกำหนดให้วันศุกร์นำกลับบ้านไปชาร์จ แล้ววันจันทร์นำมาโรงเรียน คุณครูน่ารักมาก เห็นถึงปัญหาที่เกิดจากการให้ใช้ เลยเห็นด้วยกับผู้ปกครอง
2. เรื่องการไปเรียนร่วมกับคลาสเด็กปกติ สรุปคือ คุณครูขอดูว่าผมเรียนเป็นยังไง แล้วค่อยพิจารณาดูว่าวิชาไหนบ้างที่ไปเรียนรวมได้
3. เรื่องการไปค้างคืนตจว 1คืน (ป.5 จะมีการไปค้างคืนตจว 1 คืน เรียก 林間学校) เรื่องนี้คุณครูค่อนข้างกังวลมาก สรุปคือ ขอให้ผู้ปกครองไปค้างคืนด้วย แต่ที่พักหาเอง ไม่ใช่ที่เดียวกับเด็ก ๆ ให้ตามไปดูแลห่าง ๆ ถ้ามีปัญหาอะไร ก็จะได้มาได้ทันเวลา
จากการได้พูดคุยในวันนี้ รู้สึกโล่งอกไปเยอะมาก ได้เจอครูประจำชั้นที่เป็นคุณครูสำหรับสอนเด็กพิเศษจริง ๆ
ส่วนเรื่องการบ้าน แล้วแต่คุณครูเลย การบ้านตั้งแต่เปิดเทอมมา ทั้งหม่าม้า ทั้งผมก็ไม่ค่อยเครียดเท่าไหร่ ไม่เยอะเกินไป แล้วก็ไม่ยากจนเกินไป
รูปภาพ : การบ้านสำหรับเด็กพิเศษชั้น ป. 5 ช่วงเปิดเทอมใหม่ ๆ
วันอังคารที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2568
อุปกรณ์ที่เอาไปร.ร.วันแรก กับหนังสือเรียนชั้นป.5 ร.ร.ญี่ปุ่น คลาสเด็กออทิสติก
วันแรกของการเปิดเทอม คลาสเรียนของเด็กออทิสติกก็มีให้เตรียมอุปกรณ์การเรียนไป สิ่งที่เตรียมไปก็เหมือนคลาสเด็กปกติเลย
ขากลับทางร.ร.ก็แจกหนังสือเรียนใส่มาในกระเป๋ารันโดะเซะรุ อย่างหนักมาก
![]() |
รายการที่ทางร.ร.บอกมาว่าให้เตรียมอะไรไปบ้าง ใบนี้จะได้ตอนจบชั้นป.4 เพื่อให้ผุ้ปกครองช่วยเตรียม |
![]() |
หนังสือเรียน |
![]() |
หนังสือเรียน |
![]() |
วิชาที่เพิ่มเติมจากชั้นป.4 วิชางานบ้านงานเรือน |
![]() |
เนื้อหาวิชางานบ้านงานเรือน |
วันจันทร์ที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2568
ก่อนขึ้นป. 5 กับความในใจช่วงตอนป. 4
พรุ่งนี้ 8 เมษา ลูกชายก็จะขึ้น ป.5 แล้ว เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก
จากการที่ลูกเรามีภาวะทางออทิสติก ซึ่งเรารู้ตั้งแต่ก่อนที่จะเข้าเรียนชั้นประถม ก็เลยให้ลูกชายเรียนคลาสสำหรับเด็กพิเศษ (ที่นี่เขาจะเรียก 支援級(ชิเอ็งคิว) ก็คือตามตัวหนังสือเลย จะเป็นคลาสที่เด็ก ๆ จะได้รับความช่วยเหลือทั้งเรื่องการเรียน การกีฬาหรือกิจกรรมต่าง ๆ)
อย่างด้านจำนวนนักเรียนห้องนึงไม่เกิน 8 คน (อาจจะมีเด็กชั้นเดียวกัน หรือชั้นที่สูงกว่า หรือชั้นที่เล็กกว่าปน ๆ กันไป) โดยคลาสสำหรับเด็กพิเศษ (支援級) ก็จะมีการแบ่งประเภทของเด็กอีก จะมี 2 ประเภท
ประเภทที่หนึ่ง เรียก 情緒学級 (โจ้โฉะกักคิว) คลาสนี้จะไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องการเรียน แต่จะมีปัญหาอย่างเรื่องของการควบคุมอารมณ์
ประเภทที่สอง เรียก 知的学級 (จิเตคิกักคิว)
คลาสนี้จะมีปัญหาในเรื่องการเรียน คือเรียนไม่ทันเพื่อน
ตั้งแต่ป.1 - ป.3 ลูกเราเรียนคลาส 情緒学級 แต่พอตอนป.4 เปลี่ยนครูประจำชั้นคนใหม่ เท่านั้นแหละ ตอนมีนัดคุยกับผู้ปกครอง ครูป.4 บอกให้เราพิจารณาคลาส 知的学級 เพราะดูเหมือนลูกชายเราจะเรียนไม่ทันเพื่อน
เรากับสามีไม่รอช้าเลย เปลี่ยนก็เปลี่ยน เพราะลูกเราคงไม่ถูกจริตกับครูคนใหม่นี้ การเรียนแย่ลง สมาธิสั้นมากขึ้น คือทุกอย่างแย่ลงกว่าตอน ป.3 มาก แล้วเราก็มารู้ภายหลังเพราะมีแอบไปรับลูกถึงห้องเรียนก่อนเวลา (เพราะต้องพาไปโรงพยาบาล) รู้เลยว่าครูให้เล่นโน้ตบุ๊ค (นักเรียนทุกคนจะมีกันคนละเครื่อง)
แล้วไม่ได้ให้เล่นแป๊ปเดียวนะ ลองถามลูก ลูกบอกเล่นเกือบทั้งวัน แล้วน่าจะทุกวัน โห นี่สินะที่มาของอาการแย่ลง
เลยขอครูว่าถ้าเป็นไปได้ ไม่อยากให้เล่นนอกเหนือจากที่ใช้เรียน ครูตอบว่าถ้าไม่ให้เล่น เด็กจะเครียด ครูเขายืนยันว่าจะยังคงให้เล่นต่อไปเพื่อไม่ให้เด็กเครียด นี่คือวิธีการของเขา
เรากับสามีคือทำอะไรไม่ได้ นอกจากอดทน 1 ปี เพราะการย้ายคลาสต้องรอขึ้นชั้นถัดไปถึงย้ายได้ มีแม่คนญี่ปุ่นที่ลูกเขาอยู่คลาสเดียวกันกับลูกเราบอกเราว่าปีหน้าเขาจะย้ายโรงเรียนแล้วนะ เหตุผลเราไม่กล้าถามนะ แต่น่าจะมาจากครูประจำชั้นคนใหม่คนนี้ คิดว่านะ
เพราะฉะนั้นสิ่งที่เรากังวลมากเลยกับชั้น ป.5 นี้ ก็คือครูประจำชั้น เพราะถ้าเจอครูที่ดี ใส่ใจนักเรียนเด็กพิเศษ เด็กก็จะพัฒนาต่อไปอีกได้ แต่ถ้าเจอเหมือนตอนป.4 น่าสงสารเด็กมากอ่ะ แทนที่จะได้รับการช่วยเหลือให้พัฒนาให้ดีขึ้นกลับแย่ลง แล้วเด็กโต ก็ค่อนข้างแก้ยากอยู่แล้ว
ขึ้นป.5 สิ่งที่เปลี่ยนแปลง
1. จาก情緒学級 เป็น 知的学級
2. เพื่อนร่วมชั้น
3. ครูประจำชั้น
ก็ขอให้ลูกเราเจอครูที่เมตตา ต้องการพัฒนาเด็กให้ดีขึ้น แล้วก็ขอให้เจอเพื่อนร่วมชั้นที่เข้ากันได้ดีด้วยเทอญ
ภาพด้านล่าง การบ้าน งานประดิษฐ์ตอน ป.4 บางส่วน เก็บไว้เป็นความทรงจำ
แต่งานประดิษฐ์ครูผู้ช่วยเป็นคนทำซะส่วนใหญ่ ก็คงต้องทิ้งไป เพราะไม่ใช่ฝีมือลูกตัวเอง
วันอาทิตย์ที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2567
เพิ่มความรู้ให้ตัวเอง สำหรับสอนการบ้านให้ลูก
วันนี้พาลูกชายไปขึ้นรถไฟ ไปห้างแถว ๆบ้านก่อนกะว่าถ้ามีเวลา วันหยุด จะค่อย ๆ พาเขาไปที่ที่ไกลขึ้นหน่อย อยากให้เขาฝึกการขึ้นรถไฟไปไหนเองได้ เพราะส่วนใหญ่เรากับสามีจะขับรถพาเขาไป พอเขาจะขึ้นป.4 รู้สึกว่าจะต้อง เตรียมอะไรหลาย ๆอย่าง
อาจจะเพราะมีเรื่องม.ต้นที่เคยไปฟัง ฟังแล้วลูกเรายังทำอะไรเองไม่ได้เยอะมาก เพราะฉะนั้นตั้งแต่นี้เลยต้องพยายามฝึกลูกให้มากกว่านี้
วันนี้เข้าร้านหนังสือได้ 2 เล่มนี้มา ก่อนอื่นเราต้องอ่านเลย เพราะตอนนี้ป.3 ตอนสอนการบ้านลูก จะมีปัญหามาก ตอน ป.1 ป.2 ยังไม่ค่อยมีปัญหาเท่าไหร่. พอตอนป.3 นี่แหละ. อธิบายศัพท์ไม่ถูก. ได้แต่เขียนวิธีการให้ แต่ลูกเราเขาก็ยังไม่ค่อยเข้าใจอยู่ดี เราเลยเริ่มหงุดหงิด แล้วตามมาด้วยอารมณ์ สอนปนน้ำตา (ลูกชาย)
ต่อไปเราคงต้องใจเย็นและศึกษาภาษาญี่ปุ่นให้มากกว่านี้
วันศุกร์ที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2567
ชุดของเด็ก ๆ (หญิง ชาย) ที่จะใส่ในวันปฐมนิเทศขึ้น ป.1 โรงเรียนประถมที่ญี่ปุ่น
วันพุธที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2567
่ชุดที่แม่แม่ใส่ตอนวันปฐมนิเทศที่โรงเรียนที่ญี่ปุ่น
นี่ก็ใกล้จะปิดเทอมใหญ่กันแล้ว อย่างชั้นอนุบาล 3 ก็จะจบไปขึ้นป. 1 ชั้นป.6 ก็จะจบไปขึ้นชั้นม. ต้น
เด็กเข้าอนุบาล 1 กับเด็ก ป.1 (เอาจากประสบการณ์ตัวเองนะ) ก็จะไปเรียนในสภาพแวดล้อมใหม่ ๆ เพื่อนใหม่ ผู้ปกครองแม่แม่ก็ต้องไปหาซื้อเสื้อผ้ามาใส่ในตอนที่ลูกจะขึ้น อ. 1 ขึ้น ป.1
แล้วตอนจบ อ.3 เราก็ไปเสื้อแค่สูทที่สีออกเทา ๆ มาใส่ตอนลูกจบชั้น อ. 3
ตอน อ.1 กับ ป.1 เป็นการเข้าเรียน เราเลยเลือกสูทแบบสีครีม ๆ อ่อน ๆ
ตอนนี้ทางร้านก็ขายชุดที่ว่านี้เยอะมาก เราเลยเก็บมาฝากเผื่อเป็นแนวเล็ก ๆ น้อย ๆ นะคะ
วันพฤหัสบดีที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2564
หนังสือและอุปกรณ์การเรียนสำหรับเด็ก ป.1 ของโรงเรียนประถมที่ญี่ปุ่น
![]() |
กล่องใส่อุปกรณ์ วางไว้ใต้โต๊ะเรียน |
![]() |
ดินสอให้ใช้ 6B |
![]() |
แผ่นรองเขียน |
-
พอดีไปอ่านเจอในนิตยสารของญี่ปุ่น เกี่ยวกับเรื่อง สารอาหารของเด็กในการส่งเสริมสุขภาพกายและใจก็คือ "การนอนหลับ" น่าสนใจดี เลยลองแปลเ...
-
พอเข้าเดือน ก.ค. ในทุก ๆ ปี ที่ญี่ปุ่นก็จะมีการจัดเทศกาลของหน้าร้อน ซึ่งหนึ่งในนั้นจะมี Omikoshi ซึ่งก็คือการแห่ศาลเจ้านั้นเอง เป็นการไล่สิ่...
-
คุณซูให้การ์ดของ QUO Card มา แล้วก็บอกว่าใช้ซื้อของที่ 7-11 หรือร้านสะดวกซื้อได้ แต่เราไม่เคยเห็นแบบนี้มาก่อน ตอนแรกนึกว่าบัตรโทรศัพท์ ก็เลย...