วันพุธที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

ซื้อกระเป๋าตังค์เป็นเซ็ทคู่ ^0^

คุณซูอยากได้กระเป๋าตังค์ใหม่ + ของเราก็เก่าหนังเริ่มเสียหล่ะ ก็เลยซื้อด้วยเลย
ยี่ห้อนี้ก็ทนดีเหมือนกัน แต่ราคาแพงจากเดิมที่เคยซื้อมาเยอะเลย
ก็ได้รับส่วนลดเพราะคุณซูเป็นคนต่างชาติ 5 เปอร์
+ ใช้คะแนนในบัตรเครคิต ก็ได้รับส่วนลดเพิ่ม
สรุปลดไปเกือบพันบาท ดีใจจังเลย

ใบเล็ก 2,200 บาท
ใบใหญ่ 3,400 บาท
เหลือที่ต้องจ่าย 4,655 บาท



วันจันทร์ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

เพิ่มชื่อเจ้าหนูเข้าทะเบียนบ้านที่ไทย

กลับไปไทยคราวนี้ก็มีต้องทำเรื่องเพิ่มชื่อเจ้าหนูเข้าทะเบียนบ้าน ก็มีหลายคนบอกมาว่าถ้าเป็นเด็กผู้ชายก็ไม่ต้องเพิ่มก็ได้ เพราะเกี่ยวกับเรื่องการเกณฑ์ทหาร แต่ไหน ๆ ก็ทำเรื่องสูติบัตรแล้ว ก็ทำเรื่องนี้ด้วยเลยดีกว่า ท้ายที่สุดก็ให้เจ้าหนูเป็นคนเลือกเองว่าจะสัญชาติไทยหรือญี่ปุ่น
ก่อนหน้าที่จะกลับไทย เราก็โทรไปที่สำนักงานเขตที่จะไปเดินเรื่องก่อน เพราะรู้มาว่าแต่ละที่อาจจะไม่เหมือนกัน กรณีของเราเป็นเขตจอมทอง เจ้าหน้าที่ก็บอกว่าให้เตรียมเอกสารมาให้ตรวจสอบก่อน แล้วหลังจากนั้น 1 อาทิตย์ค่อยพาเจ้าบ้าน พยาน ตัวเรา แล้วก็เจ้าหนูมาด้วย แต่ว่าเรากลับญี่ปุ่นพอดี มาอีกทีอาจจะอีกนาน เจ้าหน้าที่ก็บอกว่าตอนนั้นค่อยพามาก็ได้

เอกสารที่เรายื่นไปก็จะมี
1. สำเนาสูติบัตรเจ้าหนู
2. สำเนาพาสปอร์ตไทยเจ้าหนู (หน้ารูปถ่าย + หน้าที่ปั้มวันที่เข้าเมืองไทย)
3. สำเนาพาสปอร์ตตัวเรา (หน้ารูปถ่าย + หน้าที่ปั้มวันที่เข้าเมืองไทย)
4. สำเนาพาสปอร์ตคุณซู (หน้ารูปถ่าย)
5. สำเนาทะเบียนบ้านตัวเรา
6. สำเนาทะเบียนสมรส + สำเนารับรอง "นาง" + สำเนาเปลี่ยนนามสกุลของตัวเรา
7. สำเนาบัตรประชาชนตัวเรา
8. สำเนาบัตรประชาชน + ทะเบียนบ้านของเจ้าบ้าน
9. สำเนาบัตรประชาชน + ทะเบียนบ้านของพยาน

เอกสารทั้งหมดเซ็นชื่อ รับรองสำเนาถูกต้อง + เขียนว่า "สำหรับเพิ่มชื่อ"

จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็ออกใบรับเอกสาร แล้วก็เขียนว่า ก่อนจะมาทำเรื่องอีกครั้งให้โทรติดต่อมาก่อนล่วงหน้า 1 อาทิตย์ และในวันที่มาทำให้เตรียมรูปถ่าย 1 นิ้วของเจ้าหนูมาด้วย 6 ใบ และให้ถ่ายพาสปอร์ตของตัวเราแล้วก็ของเจ้าหนูหน้าที่มีปั้มวันที่เข้าเมืองไทยล่าสุดมาด้วย


เจ้าหน้าที่ที่นี่โอเคเลย ใจดี น่าจะไม่มีปัญหาอะไร

วันศุกร์ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

ขึ้นเครื่องบินไปไทยของเจ้าหนู (ณ 1 ขวบ + 4 วัน)

เครื่องบินที่เราใช้จะเป็นของการบินไทย TG 641 ก่อนหน้าที่เดินทางก็มีโทรไปถามเรื่องอาหารของเจ้าหนู เขาก็จะมีให้เลือกเป็นแบบขวด หรือไม่ก็เป็นเหมือนของผู้ใหญ่แต่สำหรับเด็ก เราเลยเลือกแบบชุดสำหรับเด็ก ปรากฏว่าเจ้าหนูยังกินไม่ได้ เพราะน่าจะเป็นของเด็กโตมากกว่า ดีที่เราเอาอาหารสำหรับเจ้าหนูติดกระเป๋าไปด้วย
ตอนที่มาเช็คอิน เจ้าหน้าที่บริการดีมาก มีการล็อกที่นั่งอีกที่ให้ด้วย (เป็นที่นั่ง 3 3 3) ก็สบายดีเจ้าหนูเลยได้นั่งเล่นบ้าง นอนแบบเหยียดขาเต็มที่ได้ 
ระยะเวลา 6 ชั่วโมงที่เดินทา่งไปไทย เจ้าหนูก็เล่น แล้วก็นอนหลับไปอีก 3 ชั่วโมง มีเปลี่ยนผ้าอ้อมในห้องน้ำ 2 ครั้ง คือตอนเครื่องบินขึ้น กับตอนจะถึงไทย
ของเล่นที่เอาไปก็จะไม่เชิงของเล่นอ่ะนะ ก็จะมีเทปกาว แว่นตา เชือก ถุงเท้า ก็โอเคนะ เจ้าหนูก็สนใจเล่นได้นานพอสมควร


วันพุธที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

เริ่มให้นมผง

วันนี้ก็เริ่มให้นมผงเป็นวันแรก แต่ก็ยังให้นมแม่อยู่ กะว่าจะให้นมแม่จนกว่าเจ้าหนูจะไม่ดูดเอง
แต่เจ้าหนูก็กินนมผงครั้งนึงก็ไม่เกิน 40 ml หรือไม่ก็แค่ 10 ml 20 ml เอง
ตอนแรกเริ่มจากยี่ห้อ Morinaga Chirumiru แล้วก็เปลี่ยนมาเป็นของ Meiji Rakurakukyubu เหมือนเจ้าหนูจะกินของเมจิมากกว่า แต่ก็ยังกินที่ปริมาณน้อยอยู่ดี




ของฝากตอนกลับไทย ก.ค. 15 (2)

ของฝากที่เพิ่มเติม
จะมีไม้เท้าพับได้สำหรับแม่เรา + ถุง + ยางสำรอง




ป๊อกกี้ครอบครัวน้องชายฝากซื้อ บอกของญี่ปุ่นอร่อยกว่า