วันจันทร์ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

เพิ่มชื่อเจ้าหนูเข้าทะเบียนบ้านที่ไทย

กลับไปไทยคราวนี้ก็มีต้องทำเรื่องเพิ่มชื่อเจ้าหนูเข้าทะเบียนบ้าน ก็มีหลายคนบอกมาว่าถ้าเป็นเด็กผู้ชายก็ไม่ต้องเพิ่มก็ได้ เพราะเกี่ยวกับเรื่องการเกณฑ์ทหาร แต่ไหน ๆ ก็ทำเรื่องสูติบัตรแล้ว ก็ทำเรื่องนี้ด้วยเลยดีกว่า ท้ายที่สุดก็ให้เจ้าหนูเป็นคนเลือกเองว่าจะสัญชาติไทยหรือญี่ปุ่น
ก่อนหน้าที่จะกลับไทย เราก็โทรไปที่สำนักงานเขตที่จะไปเดินเรื่องก่อน เพราะรู้มาว่าแต่ละที่อาจจะไม่เหมือนกัน กรณีของเราเป็นเขตจอมทอง เจ้าหน้าที่ก็บอกว่าให้เตรียมเอกสารมาให้ตรวจสอบก่อน แล้วหลังจากนั้น 1 อาทิตย์ค่อยพาเจ้าบ้าน พยาน ตัวเรา แล้วก็เจ้าหนูมาด้วย แต่ว่าเรากลับญี่ปุ่นพอดี มาอีกทีอาจจะอีกนาน เจ้าหน้าที่ก็บอกว่าตอนนั้นค่อยพามาก็ได้

เอกสารที่เรายื่นไปก็จะมี
1. สำเนาสูติบัตรเจ้าหนู
2. สำเนาพาสปอร์ตไทยเจ้าหนู (หน้ารูปถ่าย + หน้าที่ปั้มวันที่เข้าเมืองไทย)
3. สำเนาพาสปอร์ตตัวเรา (หน้ารูปถ่าย + หน้าที่ปั้มวันที่เข้าเมืองไทย)
4. สำเนาพาสปอร์ตคุณซู (หน้ารูปถ่าย)
5. สำเนาทะเบียนบ้านตัวเรา
6. สำเนาทะเบียนสมรส + สำเนารับรอง "นาง" + สำเนาเปลี่ยนนามสกุลของตัวเรา
7. สำเนาบัตรประชาชนตัวเรา
8. สำเนาบัตรประชาชน + ทะเบียนบ้านของเจ้าบ้าน
9. สำเนาบัตรประชาชน + ทะเบียนบ้านของพยาน

เอกสารทั้งหมดเซ็นชื่อ รับรองสำเนาถูกต้อง + เขียนว่า "สำหรับเพิ่มชื่อ"

จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็ออกใบรับเอกสาร แล้วก็เขียนว่า ก่อนจะมาทำเรื่องอีกครั้งให้โทรติดต่อมาก่อนล่วงหน้า 1 อาทิตย์ และในวันที่มาทำให้เตรียมรูปถ่าย 1 นิ้วของเจ้าหนูมาด้วย 6 ใบ และให้ถ่ายพาสปอร์ตของตัวเราแล้วก็ของเจ้าหนูหน้าที่มีปั้มวันที่เข้าเมืองไทยล่าสุดมาด้วย


เจ้าหน้าที่ที่นี่โอเคเลย ใจดี น่าจะไม่มีปัญหาอะไร

วันศุกร์ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

ขึ้นเครื่องบินไปไทยของเจ้าหนู (ณ 1 ขวบ + 4 วัน)

เครื่องบินที่เราใช้จะเป็นของการบินไทย TG 641 ก่อนหน้าที่เดินทางก็มีโทรไปถามเรื่องอาหารของเจ้าหนู เขาก็จะมีให้เลือกเป็นแบบขวด หรือไม่ก็เป็นเหมือนของผู้ใหญ่แต่สำหรับเด็ก เราเลยเลือกแบบชุดสำหรับเด็ก ปรากฏว่าเจ้าหนูยังกินไม่ได้ เพราะน่าจะเป็นของเด็กโตมากกว่า ดีที่เราเอาอาหารสำหรับเจ้าหนูติดกระเป๋าไปด้วย
ตอนที่มาเช็คอิน เจ้าหน้าที่บริการดีมาก มีการล็อกที่นั่งอีกที่ให้ด้วย (เป็นที่นั่ง 3 3 3) ก็สบายดีเจ้าหนูเลยได้นั่งเล่นบ้าง นอนแบบเหยียดขาเต็มที่ได้ 
ระยะเวลา 6 ชั่วโมงที่เดินทา่งไปไทย เจ้าหนูก็เล่น แล้วก็นอนหลับไปอีก 3 ชั่วโมง มีเปลี่ยนผ้าอ้อมในห้องน้ำ 2 ครั้ง คือตอนเครื่องบินขึ้น กับตอนจะถึงไทย
ของเล่นที่เอาไปก็จะไม่เชิงของเล่นอ่ะนะ ก็จะมีเทปกาว แว่นตา เชือก ถุงเท้า ก็โอเคนะ เจ้าหนูก็สนใจเล่นได้นานพอสมควร


วันพุธที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

เริ่มให้นมผง

วันนี้ก็เริ่มให้นมผงเป็นวันแรก แต่ก็ยังให้นมแม่อยู่ กะว่าจะให้นมแม่จนกว่าเจ้าหนูจะไม่ดูดเอง
แต่เจ้าหนูก็กินนมผงครั้งนึงก็ไม่เกิน 40 ml หรือไม่ก็แค่ 10 ml 20 ml เอง
ตอนแรกเริ่มจากยี่ห้อ Morinaga Chirumiru แล้วก็เปลี่ยนมาเป็นของ Meiji Rakurakukyubu เหมือนเจ้าหนูจะกินของเมจิมากกว่า แต่ก็ยังกินที่ปริมาณน้อยอยู่ดี




ของฝากตอนกลับไทย ก.ค. 15 (2)

ของฝากที่เพิ่มเติม
จะมีไม้เท้าพับได้สำหรับแม่เรา + ถุง + ยางสำรอง




ป๊อกกี้ครอบครัวน้องชายฝากซื้อ บอกของญี่ปุ่นอร่อยกว่า


วันอังคารที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

พาเจ้าหนูมาตรวจครบ 1 ขวบ + ฉีดวัคซีน ヒブ、小児肺炎球菌(追加)

หลังจากเจ้าหนูครบ 1 ขวบ ก็มีนัดตรวจร่างกาย แล้วก็นัดฉีควัคซีนหลังจาก 12 เดือนไปแล้วด้วยเลย
แต่ก่อนหน้าที่จะฉีด เราก็โทรถามทางรพ. ก่อนว่าต้องโทรจองล่วงหน้าก่อนมั้ย เพราะทุกครั้งจะต้องโทรจอง ทางรพ. ก็บอกว่า 2 ตัวนี้ไม่ต้อง แค่มีใบ 予診票 มาก็ฉีดได้แล้ว และครั้งนี้ก็ไม่ต้องออกค่าใช้จ่ายในการฉีดวัคซีนล่วงหน้าแล้วด้วย ดีจัง

พอไปถึงรพ. เราก็ถามอีกเรื่องนึงว่า หลังจากฉีดวัคซีนตับอักเสบ B ไปเมื่อวันที่ 18 มิย. ที่ผ่านมา ต้องเว้นกี่สัปดาห์ถึงฉีดตัวอื่นได้ เจ้าหน้าที่ก็บอกว่า 1 สัปดาห์ขึ้นไป

ส่วนวัคซีนที่จะฉีดในวันนี้ก็มีเงื่อนไขคือครบ 12 เดือนไปแล้ว และห่างจากครั้งที่ 3 มาแล้ว 7 เดือน นับกันก็โอเค ผ่านเกณฑ์

พอถึงคิวเจ้าหนู ก็วัดส่วนสูง นน รอบอก รอบหัวก่อน เจ้าหนูสูง 74.0 ซม. หนัก 9710 กรัม
จากนั้นช่วงระหว่างรอคุณหมอ ก็ฉีดวัคซีน 2 เข็มนี้เลย เจ้าหนูร้องตอนที่เข็มเข้าเนื้อ จากนั้นก็ไม่ร้อง เก่งมาก ๆ

พอถึงคิวให้คุณหมอตรวจ คุณหมอก็ตรวจ ๆ บอกโอเค แต่ควรจะให้เลิกนมแม่ได้แล้ว เพราะถ้าประจำเดือนยังไม่มา ฮอร์โมนยังไม่เข้าที่ จะทำให้กระดูกพรุน ส่งผลต่อไปในอนาคต ถึงตอนนี้เราจะกินแคลเซียมแต่การดูดซึมไม่ดี เพราะโฮร์โมนยังไม่เข้าที่ ควรให้เริ่มนมผง ส่วนนมวัวให้เริ่มตอน 1.6 ปี

แล้วเราก็ถามว่าควรล้างจมูกดีมั้ย เพราะเจ้าหนูหายใจครืด ๆ คุณหมอบอกไม่ควร

แล้วคุณหมอลองให้เราจับเจ้าหนูเดินที่พื้น เจ้าหนูไม่ยอมเดินอ่ะ มีงอ ๆ เข่า คุณหมอบอกถ้า 1.3 ปี แล้วยังไม่เดินให้พามาตรวจอีกที

แล้วก็ถามนู้นนี่ แต่เป็นเรื่องจุกจิกสำหรับคุณหมอมั้ง เพราะคุณหมอตอบ "ไม่เป็นไร" 555

ค่าตรวจวันนี้ 3240 เยน แล้วเจ้าหน้าที่ก็ให้เราเลือกลายของที่ระลึก เป็นเสื้อกันฝนสำหรับเจ้าหนู น่ารักดี