อัพเดทเรื่องการฝึกขับถ่าย (ณ. 2.6 ขวบ)

หลังจากที่ซื้อกระโถนของเด็กผู้ชายมาตั้งที่ห้องอาบน้ำ ก็จะพาเจ้าหนูเข้าห้องน้ำทุก ๆ 1 ชั่วโมง ส่วนใหญ่ก็จะฉี่ออกมา แต่ก็มีบ้างที่ไม่ฉี่ แล้วเจ้าตัวก็บอกไม่ฉี่ ส่วนเรื่องการบอก จะชอบบอกปวดอี ก็จะจับนั่งกระโถนสำหรับเด็ก แต่ไม่ยอมนั่ง ชอบยืนฉี่กับยืนอึ ซึ่งบางครั้งบอกปวดอึ แต่กลับแค่ฉี่อย่างเดียว
ตอนนี้ถ้าอยู่บ้านก็ไม่ได้ใส่แพมเพิสแล้ว จะมีใส่ก็ตอนออกไปข้างนอก กลับตอนนอน
ตอนออกไปข้างนอกถ้าไม่ไกลมาก เราก็จะให้ใส่　パッド จะคล้าย ๆ แผ่นผ้าอนามัย
แล้วก็มีพาเข้าห้องน้ำสาธารณะ ส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยยอมฉี่ นอกจากว่าคุ้นกับห้องน้ำนั้นแล้ว (แบบห้องใหญ่ เพราะชอบเล่นทิชชู) เจ้าหนูก็ยังยืนฉี่ไม่ถึง ก็เลยใช้วิธีจับยืนบนโถ คือให้ยกฝานั่งขึ้นก่อน เพราะเจ้าหนูก็ยังไม่ยอมนั่งโถส้วมอยู่ดี
แต่ถ้าเป็นห้องน้ำสำหรับเด็กตามห้างใหญ่ ๆ เจ้าหนูก็จะยอมเข้าโดยดี แต่ก็ชอบกดน้ำอยู่บ่อย ๆ เฮ้อ
สรุปก็ยังเลิกแพมเพิสไม่ได้อยู่ดี ไม่เป็นไร พยายามไม่เครียด

เรียนว่ายน้ำของเจ้าหนู (ณ 2.6 ขวบ)

ก่อนที่เวลาจะผ่านไปแล้วคงมีบางอย่างลืม ๆ ไปบ้าง เลยต้องมาเขียนเป็นไดอะรี่ก่อนดีกว่า เพราะเดี๋ยวจะลืมไปมากกว่านี้
เจ้าหนูเริ่มเรียนว่ายน้ำตั้งแต่วันที่ 2 เม.ย. 2016
1 เดือนแรกให้ไปเรียนไปคลาสเด็กอายุไม่เกิน 1.6 ขวบ แต่ตอนนั้นเจ้าหนูประมาณ 1.10 ขวบได้ สาเหตุเพราะเจ้าหนูกลัวการสระผมมาก เลยไม่รู้จะกลัวสระน้ำด้วยหรือเปล่า
2 คอร์สนี้ผู้ปกครองลงไปกับเด็กด้วย
ช่วงแรก ๆ ที่เรียนก็มีบ้างที่ไม่ยอมทำตามโค้ชบอก แต่ก็ไม่เป็นไรเอาให้ชินกับน้ำเป็นพอ
หลังจากครบเดือน ก็เข้าคอร์สปกติคือสำหรับเด็ก 1.6 ขวบขึ้นไป - 3 ขวบ
ก็จะมีให้เอามือควักน้ำเข้าหน้า ช่วงแรก ๆ เจ้าหนูไม่ค่อยยอมทำเท่าไหร่
-ยืนกระโดดน้ำจากขอบสระ ทำได้ประมาณเดือน ก.ค. หรือไม่ก็ ส.ค. 2016
-มาลอยตัวเองได้นิดหน่อยแล้วก็เอาหน้าจุ่มน้ำเองก็ วันเสาร์ 17 ก.ย. 2016 หลังจากนั้นก็ชอบทำแบบเอาตัวเองลงไปในน้ำ (Up pu pu, Bukubuku)
-ทำท่าวะนิซังได้ดีเมื่อประมาณเดือน พ.ย. 2016 ได้
-ลอดห่วงได้แบบไม่ต้องใช้มือจับ คืออยู่ในน้ำแล้วก็ลอดไปเองได้ประมาณเดือน พ.ย. หรือไม่ก็ ธ.ค. 2016
-ทำท่าปูไต่ขอบสระ (Kani san) แบบไต่ไปเรื่อย ๆ ได้เดือน ม.ค. 2017


เท่าที่นึกได้ก็มีประมาณนี้

子どもチャレンジ （Feb 2017）

คงต้องเอียงดูกันหน่อยแล้ว เพราะไม่ได้ปรับ555

ของชิ้นที่ 75 - 78 (รองเท้า, รถไฟเปอร์ซี่, เป้, บอล)

เตรียมตัวก่อนพาเจ้าหนูเข้าอนุบาล

เรากะว่าพอเจ้าหนูอายุ 3 ขวบไปแล้วถึงค่อยให้เข้าอนุบาล พอถึงตอนนั้นเราต้องร้องไห้หนักมาก ๆ แน่ ๆ เพราะอยู่ด้วยกันตลอด ไม่อยากนึกถึงเลย เพราะนึกทีไรน้ำตาจะไหลทุกที
ช่วงนี้ก็มีคุย ๆ กับคุณซูเรื่องโรงเรียน ตอนแรกกะเลือกที่ใกล้บ้านที่สุด แต่ได้ยินแม่ ๆ คนญี่ปุ่นคุยกัน แนะนำมา จะเป็นอีกที่ที่ไกลจากบ้านหน่อย เราเลยเข้าเว็บดู ที่นี่ก็มีกิจกรรมที่แม่จะพาลูกไปร่วมได้ด้วย โดยมีตารางกำหนดมาให้ว่าเดือนนี้มีวันไหนบ้างที่จะมีกิจกรรมให้มาทำที่โรงแรียน
ครั้งแรกที่เราพาไปก็จะเป็นของเดือนต.ค. 16 แล้ว โชคดีมาก ๆ ที่คุณซูบอกให้รอ เพราะเราไปเก้อ เขามีอีกเวลานึง ดีที่รอ เจ้าหนูเลยได้ประสบการณ์จับสัมผัสพวกกระต่าย หนู ดูม้า ฯ
ตั้งแต่นั้นมาก็จะพยายามพาเจ้าหนูไปทุก ๆ เดือนที่ทางโรงเรียนมีกิจกรรม
ก็ดีนะ เพราะกิจกรรมที่ว่าก็จะมีให้ออกกำลังกาย กระโดด โหน กระโดดเชือก (คือให้เดินผ่านเชือก) ฯลฯ


นอกจากกิจกรรมที่ว่าด้านบน ทางโรงเรียนก็มีคลับสำหรับเด็กที่จะเข้ามาเรียนจริงๆ ในปีถัดไปด้วย คงประมาณว่าให้เด็กชินกับครู เพื่อน ก่อนเข้าเรียนจริงมั้ง เพราะยังไม่เปิด เปิดอีกทีก็เดือน พ.ค. ระยะเวลาแค่ 5 เดือนเอง
นี่ก็ไปสมัครมาแล้ว อาทิตย์ละ 1 ครั้ง แต่รวมเดือนละ 3 ครั้ง ค่าใช้จ่ายเดือนละ 3000 เยน

子どもチャレンジ (Jan 2017)

หลังจากกลับมาจากเมืองไทย ก็มีกระดาษแจ้งว่ามาส่งแล้วแต่เราไม่อยู่ โทรไปให้มาส่งใหม่ก็ไม่ได้เพราะเลยวันที่ที่เขาจะเก็บให้ ก็เลยติดต่อที่บริษัท

ทางบริษัทก็ส่งมาให้เราใหม่ บริการดีมาก ๆ