เรากะว่าพอเจ้าหนูอายุ 3 ขวบไปแล้วถึงค่อยให้เข้าอนุบาล พอถึงตอนนั้นเราต้องร้องไห้หนักมาก ๆ แน่ ๆ เพราะอยู่ด้วยกันตลอด ไม่อยากนึกถึงเลย เพราะนึกทีไรน้ำตาจะไหลทุกที
ช่วงนี้ก็มีคุย ๆ กับคุณซูเรื่องโรงเรียน ตอนแรกกะเลือกที่ใกล้บ้านที่สุด แต่ได้ยินแม่ ๆ คนญี่ปุ่นคุยกัน แนะนำมา จะเป็นอีกที่ที่ไกลจากบ้านหน่อย เราเลยเข้าเว็บดู ที่นี่ก็มีกิจกรรมที่แม่จะพาลูกไปร่วมได้ด้วย โดยมีตารางกำหนดมาให้ว่าเดือนนี้มีวันไหนบ้างที่จะมีกิจกรรมให้มาทำที่โรงแรียน
ครั้งแรกที่เราพาไปก็จะเป็นของเดือนต.ค. 16 แล้ว โชคดีมาก ๆ ที่คุณซูบอกให้รอ เพราะเราไปเก้อ เขามีอีกเวลานึง ดีที่รอ เจ้าหนูเลยได้ประสบการณ์จับสัมผัสพวกกระต่าย หนู ดูม้า ฯ
ตั้งแต่นั้นมาก็จะพยายามพาเจ้าหนูไปทุก ๆ เดือนที่ทางโรงเรียนมีกิจกรรม
ก็ดีนะ เพราะกิจกรรมที่ว่าก็จะมีให้ออกกำลังกาย กระโดด โหน กระโดดเชือก (คือให้เดินผ่านเชือก) ฯลฯ
นอกจากกิจกรรมที่ว่าด้านบน ทางโรงเรียนก็มีคลับสำหรับเด็กที่จะเข้ามาเรียนจริงๆ ในปีถัดไปด้วย คงประมาณว่าให้เด็กชินกับครู เพื่อน ก่อนเข้าเรียนจริงมั้ง เพราะยังไม่เปิด เปิดอีกทีก็เดือน พ.ค. ระยะเวลาแค่ 5 เดือนเอง
นี่ก็ไปสมัครมาแล้ว อาทิตย์ละ 1 ครั้ง แต่รวมเดือนละ 3 ครั้ง ค่าใช้จ่ายเดือนละ 3000 เยน
เรื่องราวทั่วไปของแม่บ้านญี่ปุ่น กับลูกออทิสติกที่สอนอะไรหลาย ๆ อย่างให้กับแม่อย่างเรา
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
-
พอดีไปอ่านเจอในนิตยสารของญี่ปุ่น เกี่ยวกับเรื่อง สารอาหารของเด็กในการส่งเสริมสุขภาพกายและใจก็คือ "การนอนหลับ" น่าสนใจดี เลยลองแปลเ...
-
พอเข้าเดือน ก.ค. ในทุก ๆ ปี ที่ญี่ปุ่นก็จะมีการจัดเทศกาลของหน้าร้อน ซึ่งหนึ่งในนั้นจะมี Omikoshi ซึ่งก็คือการแห่ศาลเจ้านั้นเอง เป็นการไล่สิ่...
-
คุณซูให้การ์ดของ QUO Card มา แล้วก็บอกว่าใช้ซื้อของที่ 7-11 หรือร้านสะดวกซื้อได้ แต่เราไม่เคยเห็นแบบนี้มาก่อน ตอนแรกนึกว่าบัตรโทรศัพท์ ก็เลย...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น