วันเสาร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567

อาหารมื้อเย็น กับมื้อเช้าของโรงแรม Kinugawa-gyoen (鬼怒川御苑ホテル)


มื้อเย็นก็จะมีซูชิ มีหลากหลายประเภทมาก เลือกไม่ถูก แต่เหมือนมีกำหนดช่วงเวลา อย่างพวกเราได้รอบ 20:00 -21:30 น. พอทานเสร็จก็ได้เวลาเข้านอน ^^ 





ที่นั่ง ไม่จำเป็นต้องมีคนเฝ้าโต๊ะ เพราะเพียงพลิกป้ายอันนี้ว่า お食事中 ก็จะหมายถึงกำลังทานอยู่


ป้ายนี้ 空席 จะหมายถึง ไม่มีคนนั่ง หรือถ้าเราทานเสร็จแล้วก็พลิกกลับเป็นด้านนี้ก็จะหมายถึงทานเสร็จแล้ว มาเก็บโต๊ะได้ (แต่โดยปกติ แขกที่มาทานจะเป็นคนเก็บจานชามแก้วไปไว้ตรงบริเวณที่เขาจัดชั้นวางให้เอง) พนักงานก็จะมาเช็ดโต๊ะ ทำความสะอาดโต๊ะ 







พอมื้อเช้า บ้านเราจะตักมาแต่แบบนี้ ^^




 

ไปพักที่โรงแรม Kinugawa-gyoen (鬼怒川御苑ホテル)

พอดีว่าบริษัทสามีเราเขามีสวัสดิการ แบบมีแต้มสะสมให้ใช้ จะใช้ซื้อของก็ได้ จะไปเที่ยว พักโรงแรมก็ได้ตามแต่คะแนนที่สะสมมา (สถานที่หรือร้านที่ใช้ได้ มีระบุในสวัสดิการอีกที) พวกเราก็เลือกมาที่นี่ โรงแรม Kinugawa-gyoen  (鬼怒川御苑ホテル)แต่แต่แต่
สามีเราดันไปเลือกผิด เลือกเป็นห้องสูบบุหรี่ได้ (เลือกตอนห่วงนอน) เราเลยเตือนสามีเลย เวลาเหนื่อย ๆ หรือง่วงมาก ๆ พยายามอย่าตัดสินใจหรือเลือกทำอะไรนะช่วงนี้ เพราะจะผิดพลาดง่ายมาก 

ก่อนออกเดินทาง ก็ไปทำงานของที่โรงเรียน งาน PTA แล้วก็แวะ Nikko Toshogu (日光東照宮)แล้วก็มา Check in ที่โรงแรม

ป้ายหน้าโรงแรม

เราสามารถหยิบชุดยูคาตะเอาเองได้เลยจากชั้น 1 บริเวณเคาน์เตอร์เช็คอิน


แล้วก็หยิบชุดแปรงสีฟันเองจากจุดใกล้ ๆกัน






ห้อง 818 สำหรับ 3 คน (ผู้ใหญ่ 2 คน เด็ก 1 คน)






ฝักบัวตอนอาบจะทำเป็นน้ำอุ่น มันออกมาแต่น้ำร้อน เปิดน้ำเย็นก็ยังร้อน เลยต้องเลือกให้น้ำไหลจากก๊อกเงิน ๆ ยาว ๆ แต่อาบลำบากมาก ก็จะใช้กะละมังเล็ก ๆ รองน้ำอีกที

ส่วนอ่างอาบน้ำไม่มีปัญหาอะไร ซื้อผงใส่มาเรียบร้อย 


ตู้เย็นไม่มีน้ำฟรี 2 ขวดเหมือนบ้านเรา เป็นตู้เปล่า ๆ ที่เย็น


และที่นี่ไม่มีไดร์เป่าผมในห้อง (คงเพราะส่วนใหญ่ไปลงออนเซนกันหมด มีเรากับลูกไม่ได้ไป เลยลงไปขอยืมไดร์เป่าผมที่เคาน์เตอร์ตอนเช็คอิน แล้วตอนเช็คเอ้าท์ก็ต้องถือมาคืนเขาด้วย 
โรงแรมที่ญี่ปุ่นจะให้เช็คเอ้าท์ก่อน 10 โมง 


ค่าใช้จ่ายสำหรับการมาพักที่โรงแรมนี้ 1 คืน (รวมอาหารเย็น กับอาหารเช้า) 58,590 เยน (ตรงนี้ใช้สวัสดิการบริษัทเลยไม่ได้จ่ายเงินเอง) 
มาจ่ายเงินเองก็ตรงที่สามีไปเข้าออนเซน 2 ครั้ง ครั้งละ 150 เยน เป็น 300 เยน
































 

Nikko Toshogu (日光東照宮)

วันนี้มีแพลนไปค้างโรงแรม 1 คืน แต่ก่อน Check in ก็แวะไปที่  Nikko Toshogu (日光東照宮)กันก่อน ดีที่ซื้อตั๋วทัน ภายใน 15:30 อยู่ข้างในได้ถึง 16:00 ก็อยู่จนออกคนเกือบสุดท้าย เพราะมีคุณป้าคนนึงอยู่หลังพวกเราออกเป็นคนสุดท้าย โชคดีที่ยังทันได้ฟังเสียงร้องของมังกร (เจ้าหน้าที่เคาะไม้ให้ฟัง) โชคดีมาก ๆเจ้าหน้าที่บอกว่าถ้าได้ฟัง ก็จะโชคดี

อยู่จนเจ้าหน้าที่บอกให้ออกได้แล้ว (ก็คือไล่นั่นแหล่ะ) แต่อยู่เป็นคนก่อนสุดท้ายก็ดีตรงที่จะถ่ายรูปตรงไหน คนก็ไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ ^^

ค่าเข้า

ผู้ใหญ่ (ชั้นม. ปลายขึ้นไป) คนละ 1300 เยน

เด็ก (ชั้นประถม ม.ต้น) คนละ 450 เยน

เด็กเล็ก ไม่ต้องเสีย





















วันศุกร์ที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567

แนะนำวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ กรุงเทพฯ

 เกือบทุกครั้งที่เรากลับเมืองไทย วัดที่เราจะต้องไปกราบไหว้ก็คือวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ เรารู้จักวัดนี้เพราะโรงเรียนเราอยู่แถว ๆ นั้น เลยได้เห็นทุกวันเลยในช่วงนั้น ตั้งแต่มีแค่วัด เราไปบริจาคเลือดที่วัด (ของสภากาชาดไทย) มีบ้างที่ไปทำสมาธิ (ไม่ถึง 5 ครั้ง) ตอนนั้นทางวัดเริ่มมีการก่อสร้าง เหมือนจะก่อสร้างใหญ่มาก ๆ เรารู้แค่ว่าจะเป็นเจดีย์องค์ใหญ่ เราก็มีส่วนร่วมในการทำบุญนี้ด้วยนะ ^^ รู้สึกอิ่มใจ จนปัจจุบันมาที่วัดก็ได้มาเห็นสิ่งที่เราเคยเห็นครั้งเมื่อยังไม่เป็นรูปร่างสวยงามแบบนี้ ดูแล้วเป็นบุญตามาก ๆ ถ้าใครมีโอกาสไปแถวภาษีเจริญ ก็แนะนำเลยที่วัดปากน้ำ 

แล้วก็ไปกราบหลวงพ่อสดที่อีกอาคารนึง ขึ้นไปที่ชั้น 2 จะมีสรีระสังขารของหลวงพ่อ เรากราบไหว้ท่านแล้วใจสงบขึ้นมาก บรรยากาศจะเงียบมาก ๆ ใครอยากจะทำสมาธิ ก็ทำได้เลย สงบดีมากๆ 

หลังจากนั้นก็ไปให้อาหารปลาต่อ เดินทะลุทางวัดไปทางด้านหลังจะมีคลอง อาหารปลาก็มีขาย น้ำล้างมือก็มี ดีมาก ๆ 

วิธีไปก็ นั้ง BTS ลงสถานีวุฒากาศ ออกประตู 2 แล้วเรียกแท็กซี่ หรือวินมอเตอร์ไซด์ก็ได้