วันเสาร์ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2557

ประกอบเตียงให้เจ้าหนูแล้ว

วันนี้คุณซูประกอบเตียงเจ้าหนูให้แล้ว เอามาผึ่งลมก่อนใช้จริง  ^0^
ตอนกางออกมา จริง ๆ ไม่ค่อยยากเท่าไหร่ แต่ด้วยความที่ว่าเรายังไม่ชินกับการใช้งานมั้ง เล่นเอาคุณซูเหงื่อตกเลย
ตอนกางจะต้องดึงด้านทั้ง 4 ด้านให้ตึง  ๆ ให้เข้าล็อคของมัน มันจะมีเสียงแก๊ก แล้วก็ดันส่วนพื้นที่มีเชือกสีแดงที่อยู่ตรงกลางลงไป ก็จะได้เป็นตัวเตียง
ส่วนแผ่นที่หุ้มโครงเตียง จะเป็นตัวเบาะ ก็เอามาใส่ในตัวโครง มันจะมีที่ให้แขวนขึงอยู่ 4 มุม (เราก็ไม่ได้ถ่ายรูปตอนนั้นมาซะด้วย)

แล้วก็เอาฟูกที่ซื้อแยกต่างหากมาปู ไซส์พอดีกันเลย ^^

ด้านที่อยู่ใกล้ ๆ กับเตียงนอนเรา สามารถเอาลงได้ระดับหนึ่ง เพื่อสะดวกในการอุ้มเด็กมากขึ้น




 แล้วก็เลยเอาเป้อุ้มเด็กกับของเล่นมาผึ่งลมด้วยเลย ^^



วันพฤหัสบดีที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2557

ของเล่น 2 ชิ้นแรกของเจ้าหนู (กริ้ง ๆ อันปัง, โมบายติดเตียง)

หลังจากที่ไปฟังคอร์สอบรมเสร็จ ก็ไปหาซื้อของเล่นสำหรับเจ้าหนู ของเล่นที่นี่มีขายเยอะมาก จนไม่รู้ว่าจะเลือกอะไรให้ดี ซื้อเยอะก็เปลืองเงินโดยใช่เหตุ เพราะถ้าเจ้าหนูไม่เล่นขึ้นมา เท่ากับว่าเป็นการสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ สรุปก็เลยได้ 2 ชิ้นนี้มา แล้วก็คิดว่า 2 ชิ้นนี้คงให้เจ้าหนูเล่นยาวเลย แล้วค่อยไปดูของเล่นชิ้นใหม่ให้ ^0^

ชิ้นนี้ซื้อที่ Akachanhonpo ราคา 905 เยน



ส่วนชิ้นนี้สามารถหนีบกับเตียงเด็กได้ แล้วก็สามารถตั้งวางกับพื้นได้ ซื้อที่ Toysrus ราคา 7,428 เยน
ชิ้นนี้กว่าจะซื้อได้ ลังเลอยู่นาน เพราะราคานี่แหล่ะ คุณซูให้ลองถามแม่ ๆ ที่มีประสบการณ์ดูว่าเป็นยังไง  พี่ ๆ น้อง ๆ ก็แนะนำบอกว่าเด็กชอบ ฟังเพลงเพลิน เหมาะสำหรับเด็กแรกเกิด ก็เลยซื้อเลย แล้วชิ้นต่อไปคงอีกนานนะเจ้าหนู 555


ไปฟังคอร์สอบรมพ่อแม่ของทางโรงพยาบาล เรื่องกรณีที่สามีเข้าห้องคลอดด้วย

เราก็ไม่รู้ว่าที่เมืองไทย เวลาที่ภรรยาคลอด แล้วสามีต้องการเข้าไปในห้องคลอดด้วย จะต้องมาฟังการอบรมหรือเปล่า แต่ที่โรงพยาบาลนี้เขาให้พาสามีมาฟังด้วย เพื่อที่ว่าสามีจะได้รู้ว่าจะต้องทำอะไรบ้างในตอนนั้น

เมื่อถึงเวลาอบรม พยาบาลก็มาเปิดวีดีโอให้ดู จะเป็นเรื่องบทบาทของคุณพ่อที่มีต่อทารก ซึ่งคุณแม่หลายคนก็คงรู้อยู่แล้วว่าตอนที่ทารกอยู่ในท้องก็จะได้ยินเสียงจากภายนอก ซึ่งถ้าคุณพ่อมาพูดคุยกับทารกตอนที่ยังอยู่ในท้องด้วย ก็จะยิ่งเป็นการสร้างความสัมพันธ์กันมากขึ้น เมื่อทารกคลอดออกมาก็จะคุ้นเคยกับเสียงของพ่อแม่ที่คอยพูดคุยกับเขาเมื่อตอนที่เขายังอยู่ในท้อง ในวีดีโอที่เราดูจะสื่อประมาณว่า บทบาทของแม่ก็คือเป็นที่พักพิง ให้ความอบอุ่น ในเวลาที่แม่อุ้มกอด ทารกจะรู้สึกถึงความปลอดภัย ไร้ความกังวล ในขณะที่บทบาทของพ่อนั้นจะเป็นคล้าย ๆ ผู้ที่มาให้ความบันเทิง มาเล่นด้วย อยู่ด้วยแล้วสนุก

พอดูวีดีโอจบ พยาบาลก็ให้สามีแต่ละคู่แนะนำตนเอง แล้วก็กำหนดคลอดลูกวันที่เท่าไหร่ ท้องนี้เป็นลูกคนที่เท่าไหร่ คุณซูพูดรัวเชียว คงเขิน ๆ + ตื่นเต้นมั้ง อิอิ

ในวันนี้เสียดายที่พยาบาลพาไปดูห้องพักหลังจากคลอดไม่ได้ เพราะมีคนที่จะคลอดในวันนี้พอดี คุณซูเลยอดดูเลย ว่าห้องเป็นยังไง แต่จริง ๆ เราก็อธิบายให้คุณซูฟังแล้วหล่ะ ว่าห้องเป็นแบบนี้ ๆ

หน้าที่ของสามีในห้องคลอดของโรงพยาบาลนี้ก็คือ ตอนที่ภรรยาเจ็บท้องคลอด จะให้ช่วยนวดหลัง เพื่อจะได้ทำให้รู้สึกดีขึ้น เวลาที่เบ่งคลอด โดยปกติผู้หญิงจะเงยหน้าขึ้น แต่จะให้สามีคอยจับหัวให้ลง แล้วคอยพูดให้กำลังใจ ป้อนน้ำ ประมาณว่าเป็นผู้ช่วยพยาบาลอีกทีนึง  แล้วหลังจากที่คลอดเสร็จ ก็จะมีเวลาให้ถ่ายรูปประมาณ 5 นาที แต่ห้ามมือถือ เพราะเกี่ยวกับเรื่องสัญญาณ เพราะสัญญาณมือถืออาจจะส่งผลกับเครื่องที่ใช้ภายในห้อง ก็เลยให้แต่กล้องดิจิตอล หรือกล้องวีดีโอ

ไม่รู้ว่าพอถึงเวลานั้นจริง ๆ จะเป็นยังไงเนอะ


วันอังคารที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2557

เอกสารที่เจ้าหน้าที่ให้เซ็นตอนตรวจครรภ์ครั้งที่ 13

ก่อนหน้าที่จะจ่ายเงิน เจ้าหน้าที่ก็มีเอกสารมาให้เราเขียนแล้วก็เซ็นชื่อ เอกสารที่ว่าจะมี 2 ฉบับ ซึ่งฉบับแรกเจ้าหน้าที่อธิบายว่า ค่าคลอดจะอยู่ที่ 420,000 เยน (ก่อนหน้านี้จ่ายค่ามัดจำไป 100,000 เยน เท่ากับว่าค่าคลอดของที่โรงพยาบาลนี้จะอยู่ที่ประมาณบวกลบ 520,000 เยน) โดยจะให้ทางบัตรประกันสุขภาพที่เราถืออยู่ (เป็นบัตรแบบครอบครัวซึ่งเป็นของบริษัทคุณซู) โอนเข้าบัญชีของโรงพยาบาลโดยตรงเลย 
เราก็เลยถามคุณซูว่าแล้วเราต้องไปยื่นขอเบิกกับสำนักงานเขตหรือเปล่า เพราะเคยอ่านเจอของคนอื่น ๆ เขาจะออกไปก่อน แล้วไปยื่นขอคืนกับทางสำนักงานเขต คุณซูก็บอกว่าในกรณีของเราไม่ต้องออกไปก่อน แล้วก็ไม่ต้องไปยื่นขอคืนกับทางสำนักงานเขตในตอนหลังด้วย เพราะเป็นการจ่ายโดยตรงระหว่างบัตรประกันสุขภาพกับโรงพยาบาล 
เราก็งง ๆ กับระบบเหมือนกัน แต่การที่โรงพยาบาลเป็นคนดำเนินเรื่องให้ก็สะดวกไปอีกแบบนึง

ต่อมาก็ให้เซ็นอีกฉบับ จะเป็นเอกสารยินยอมให้ตรวจ "ความผิดปกติแต่กำเนิดของกระบวนการสร้างและสลาย" ก็คือ พอเด็กคลอดออกมาแล้วจะทำการตรวจว่ามีความผิดปกติหรือไม่ จะได้ดำเนินการในขั้นตอนต่อไปได้ 
จะทำการตรวจโดยการเจาะเลือดของเด็กหลังจากที่เด็กคลอดออกมาแล้วในช่วงของวันที่ 4 - วันที่ 6 
โดยค่าใช้จ่ายทางเราจะเสียค่าเจาะเลือด สำหรับค่าตรวจทางรัฐเป็นผู้รับผิดชอบ ซึ่งจะตรวจทั้งหมด 19 โรค   ผลของการตรวจจะทราบประมาณ 14 วันเป็นต้นไป โดยให้ติดต่อกับทางโรงพยาบาล 
ก็ขอให้ลูกของเราปกติดีทุกอย่างเถิดนะ เพี้ยง

แล้วก่อนกลับเจ้าหน้าที่ก็ให้เอกสารเกี่ยวกับกฏการเข้ามาเยี่ยมหลังคลอดมาให้อ่าน ก็คือโรงพยาบาลนี้เขาจะรักษาความปลอดภัย เรื่องเสียง แล้วก็มีการติดตั้งระบบกล้องวงจรปิด เพราะฉะนั้นเวลาจะมาเยี่ยมก็จะมีกฏของทางโรงพยาบาลด้วย คือว่าจะมีให้มาได้ประมาณกี่โมง มีให้แสดงบัตรเข้า - ออกโรงพยาบาล (ซึ่งอันนี้ต้องทำเรื่องก่อน) 
ก็ดีเหมือนกันเนอะ ^^






ตรวจครรภ์ครั้งที่ 13 ที่โรงพยาบาลญี่ปุ่น (อายุครรภ์ 36 สัปดาห์ 6 วัน)

วันนี้ไปโรงพยาบาลมีนัดตรวจครรภ์ครั้งที่ 13 (อายุครรภ์ 36 สัปดาห์ 6 วัน) ครั้งนี้คุณซูไปด้วย ไปถึงโรงพยาบาลก็ยื่นบัตรนัด บัตรคนไข้ สมุดสุขภาพแม่และเด็ก สมุดช่วยค่าตรวจ บัตรประกันสุขภาพ พยาบาลก็บอกว่าคุณหมอที่ตรวจประจำอยู่ตอนนี้ติดผ่าตัดอยู่ (น่าจะติดผ่าคลอดอยู่อ่ะนะ) จะรอมั้ย ใช้เวลารอประมาณ 1 ชั่วโมง ถ้าไม่อยากรอก็สามารถตรวจกับคุณหมออีกคนนึงที่เป็นผู้ชาย คุณซูอยากให้ตรวจกับหมอคนเดิม แล้วเราก็ไม่ค่อยอยากตรวจกับคุณหมอผู้ชายเท่าไหร่ ก็เลยตัดสินใจรอ ระหว่างรอก็ไปวัดความดัน แล้วก็ไปเก็บปัสสาวะ ความดันที่วัดได้อยู่ที่ 112/73 (ครั้งที่แล้ว 126/71) จากนั้นก็นั่งรอเรียก พอเจ้าหน้าที่เรียกแล้วก็เข้าห้องตรวจ ชั่งน้ำหนักอยู่ที่ 70.0 (ครั้งที่แล้ว  69.2)

จากนั้นคุณหมอวัดช่วงท้องให้พยาบาลจดที่สมุด แล้วก็จับที่ขาเราแล้วก็พูดว่า Mukumi purasu (ในสมุดสุขภาพแม่และเด็ก ช่อง Mukumi ตรงเครื่องหมายที่เป็น + เลยมีทั้งปากกาสีดำกับสีแดงวง 2 วงเลย ก็น่าจะบวมอ่ะนะ เพราะเราดูแค่ตาเปล่าเท้าบวมเปล่งเลย เจ็บส้นเท้าด้วย 

จากนั้นก็มาซาวด์ดูหน้าจอ ครั้งนี้คุณหมอก็ให้ดูส่วนหัว วัดความกว้าง ยาว ให้ดูช่วงท้อง ดูช่วงขา แล้วก็บอกว่าเด็กตัวใหญ่ ไม่ได้ใหญ่เฉพาะส่วนนะ คือเป็นเด็กตัวใหญ่ อยากให้คลอดออกมาเร็ว ๆ 

แต่ว่าตอนนี้เด็กยังไม่กลับหัวเลย เพราะถ้าเด็กที่กลับหัวแล้ว ตำแหน่งของหัวใจจะอยู่ด้านล่าง แต่นี่ของเราตำแหน่งหัวใจของเจ้าหนูยังอยู่บน ๆ อยู่เลยอ่ะ จากนั้นคุณหมอก็ให้ฟังเสียงหัวใจเต้น

น้ำหนักของเจ้าหนูในวันนี้อยู่ที่ 2,925 กรัม (ขึ้นมา 395 กรัมใน 1 สัปดาห์ ขึ้นเยอะมาก ><) 

แล้วคุณหมอก็ให้ไปห้องสำหรับตรวจภายใน เพื่อจะได้ดูว่าเด็กตัวใหญ่ประมาณไหน แล้วอยู่ในตำแหน่งไหนแล้ว ตอนตรวจคุณหมอก็ให้สูดลมหายใจเข้า เข้า เจ็บสุด ๆ  ผลดูแล้วปรากฏว่าคุณหมอยังไม่เห็นว่าเด็กเลื่อนลงมาข้างล่างเลยอ่ะ 

คุณหมอเลยแนะนำแบบสีหน้าเครียดและจริงจังมากว่าให้พยายามเคลื่อนไหว อย่างถูพื้น (ถูแบบสมัยก่อนไม่ใช้ไม้ถู) ถึงท้องจะตึง ๆ ก็ให้พยายามทำ 

คุณหมอก็บอกว่าน้ำหนักของเด็กพอถึงกำหนดน่าจะอยู่ที่ 3,600 กรัมแน่ ๆ หรือถ้าไม่ถึงก็น่าจะเกิน 3,100 กรัม ก็เลยบอกอีกว่าให้พยายามขยับ ๆ ตัว เคลื่อนไหว

เป็นอันเสร็จการตรวจในครั้งนี้

ค่าตรวจในวันนี้ 2,370 เยน

นัดครั้งต่อไปอีก 1 สัปดาห์

อ้อ...ก่อนที่จะจ่ายเงินเจ้าหน้าที่ก็เอาเอกสารมาให้เราเขียนแล้วก็เซ็นด้วย เป็นเอกสารอะไรขอเขียนบล็อกต่อไปน้า

อาการในช่วงนี้ :

- เจ้าหนูยังดิ้นแรงเหมือนเดิม

- ตอนเช้าของบางวัน ขาเป็นตะคริว คราวนี้เป็นทั้ง 2 ข้างเลย

- การเข้าห้องน้ำกลางดึกบ่อยขึ้นจากตื่นขึ้นมา 1 ครั้ง เป็น 2 ครั้ง คุณซูบอกว่าอาจจะเป็นการเตรียมตัวเข้าโหมดตอนให้นมลูกที่ต้องตื่นขี้นมาบ่อย ๆ อืม...น่าจะจริงแหะ

- ปวดหลังมากขึ้น แล้วก็ปวดหน่วง ๆ บริเวณด้านล่าง

- ตกขาวยังมามากเหมือนเดิม