วันพฤหัสบดีที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2567

พาลูกชายไปทำ Passport ไทยครั้งที่ 3 ที่สถานฑูตไทยในโตเกียว

 Passport ของลูกชายจะหมดอายุในปี 2024 นี้ ก็จะต้องทำเล่มใหม่ เพราะไม่มีการต่ออายุเล่ม เราก็เลยเข้าเว็บสถานฑูตไทยในโตเกียว ก็มีระบบการจองล่วงหน้า 45 วัน ก็จองไว้วันที่ 28 มี.ค. 24 ให้ลูกปิดเทอมก่อนแล้วพาไป ก็เข้าไปจองวันที่เราต้องการจะไปตามเว็บด้านล่างนี้ หรือหาจาก Google ก็ได้ พิมพ์คำว่า "สถานฑูตไทยในโตเกียว" 

ROYAL THAI EMBASSY, TOKYO :: ระบบลงทะเบียนทำหนังสือเดินทางล่วงหน้า :: パスポート申請事前予約 (thaiconsularservice.jp)



การไปทำ Passport ของลูก ก็จะต้องมีคุณพ่อคุณแม่ไปด้วย เพื่อไปเซ็นชื่อยินยอมขอทำ Passport ให้ลูก

เราจองเวลาไว้ที่ 9-10 โมง ขับรถไป รถติดมาก ไปเลทนิดหน่อย ก็ขอโทษเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่ที่นี่น่ารักทุกคนเลย บอกไม่เป็นไร คือใจดีมาก ๆ แล้วก็ให้บัตรคิว พร้อมใบลงทะเบียนการส่งจดหมาย ให้เรามาเขียนที่อยู่จ่าหน้า เพราะจะใช้ตอนส่ง passport กลับมา 

ขนาดพนักงานรักษาความปลอดภัย (คนญี่ปุ่่น) ก็ยิ้มแย้ม ต้อนรับดีมาก ๆ 


เอกสารที่ต้องเตรียมไป ลูกเราอายุยังไม่ถึง 20 ปี ก็จะทำ Passport ได้ที่ 5 ปี (ค่าธรรมเนียม 9000 เยน)

เอกสารที่ยื่นประกอบก็จะมี

เอกสารของลูก

1. แบบกรอกข้อมูลขอทำหนังสือเดินทาง (เราดาวน์โหลดจากเว็บ) แล้วกรอกเตรียมไป แต่ไม่ได้ใช้ เพราะเจ้าหน้าที่ปริ้นท์ไว้ให้แล้ว 

2. สูติบัตร (เราเตรียมไปทั้งตัวจริงกับสำเนา เจ้าหน้าที่ใช้สำเนาแล้วคืนกลับมาให้)

3. Passport ตัวจริง 

4. บัตรประชาชน (เราพาลูกชายไปทำบัตรตอนเขา 7 ขวบ ที่เมืองไทย บัตรของลูกใบแรก 7 ขวบ ต้องทำที่เมืองไทยเท่านั้น แล้วใบต่อ ๆ มา ก็สามารถมาทำที่สถานฑูตได้) 

5. สำเนาทะเบียนบ้านหน้าที่มีชื่อลูก (เราก็ทำตอนที่เอาชื่อเขาเข้าทะเบียนบ้านที่เมืองไทย)

6. Passport ญี่ปุ่นของลูก


เอกสารของแม่

1. Passport 

2. บัตรประชาชน

3. สำเนาทะเบียนบ้านหน้าที่มีชื่อเรา (เราเตรียมไปด้วย แต่ไม่ได้ใช้)

4. ทะเบียนสมรส (เราเตรียมทั้งตัวจริงกับสำเนาไป แล้วก็เตรียมใบเปลี่ยนนามสกุล กับใบเปลี่ยนคำนำหน้าไปด้วย แต่ไม่ได้ใช้)

5. บัตรไซริวการ์ด


เอกสารของพ่อ

1. Passport 


พอไปถึง ได้บัตรคิว พอถึงคิว เจ้าหน้าที่ก็ให้เราเซ็นชื่อ ให้สามีเราเซ็นชื่อ ให้ลูกชายเราเซ็นชื่อที่เอกสารคำร้อง (เขาเตรียมมาให้แล้ว) ลูกเรา 9 ขวบแล้วก็เขียนได้แล้ว เจ้าหน้าที่ให้เขียนแค่ชื่อ เป็นภาษาอังกฤษ (2 เล่มก่อนให้พิมพ์ลายนิ้วมือ แต่เล่มที่ 3 เขียนเองได้แล้ว ก็ให้เขียนเอง)

หลังจากนั้นก็ยื่นบัตรประชาชนทั้งของลูก ของเรา บัตรไซริว Passport ของลูก ของเรา ของสามี 

ชำระเงิน 9000 เยน แจ้งเวลาที่อยู่รอรับ Passport ส่งมาที่บ้าน ซึ่งจะใช้เวลา 1 เดือนหลังจากวันนี้ที่ทำ

จากนั้นก็รอเรียกเพื่อไปถ่ายรูป

สักพักก็ถึงคิวถ่ายรูป เจ้าหน้าที่ถามถึงส่วนสูงของลูก ตอนโรงเรียนก็วัดไปนะ แต่ผ่านไป 2 เดือนแล้ว เขาก็เลยให้ไปวัดใหม่ตรงจุดที่มีให้วัดส่วนสูง แล้วก็ใช้ตัวเลขนั้น เจ้าหน้าที่ก็ถามย้ำข้อมูล เกิดที่ไหน ส่วนสูงตัวเลขนี้นะ แล้วเขาก็ทวนของเขา จากนั้นก็ให้ลูกเซ็นชื่อที่เครื่องให้เซ็นชื่อ ใช้กล้องส่องไปที่ตา แล้วก็ขอเอกสารทะเบียนสมรส จากนั้นก็ให้พ่อกับแม่เซ็นชื่อ ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย 

รอรับเงินทอนกับใบเสร็จ จากนั้นก็กลับบ้านได้ 


คนค่อนข้างเยอะ จองคิวล่วงหน้าไว้ก็ดี เพราะใช้เวลาไม่นาน ประมาณเกือบ 1 ชั่วโมง ตั้งแต่เข้าไปและออกมา บริการของเจ้าหน้าที่ก็ดีมาก ๆ เลย แต่สถานที่อาจจะเล็กไปหน่อย หรือเพราะคนเยอะ

เจ้าหน้าที่ก็บอกอีกว่า พออายุครบ 15 ปี ก็ให้มาทำเรื่องเปลี่ยนจาก ดช. เป็นนาย 













วันอาทิตย์ที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2567

โลชั่น ครีมเจลทาหน้าที่มีส่วนผสมของเหล้าญี่ปุ่น

เมื่อวันก่อน ๆ ไป Costco  มา ชื่อป้ายก็จะตามรูป (รูปจาก Google) ที่นี่ก็จะคล้าย ๆ Big C บ้านเรา ก็จะมีของที่ขายเป็นแพ็คใหญ่ ๆ หรือขายปริมาณเยอะ แล้วราคาก็จะถูกกว่าซื้อข้างนอก 



เดิน ๆ ไปก็มาสะดุดที่โลชั่นกับเจลครีมทาหน้า เพราะว่าเขาเขียนว่ามีส่วนผสมของเหล้าญี่ปุ่น (日本酒)อยู่ด้วย แล้วเราก็ลอง ๆ ดูที่ชั้น ก็มีคนซื่้อไปจำนวนหนึ่ง แล้วขณะที่ยืนคิดอยู่ว่าจะซื้อดีไม่ซื้อดี ก็มีคนญี่ปุ่นวัย 30 ปีได้ มาซื้อไป เราก็ลองดูที่หน้าเขา ก็หน้าสวยดี ผิวโอเค เราก็เลยซื้อตามเลย 555
โลชั้น


เจลครีม




ลองใช้มาได้ 1 อาทิตย์แล้ว ก็โอเคนะ ชุ่มชื้นดี แต่ก็จะมีกลิ่นของข้าวหมักตอนที่ทำเหล้าอ่ะนะ แต่ติดไม่ทั้งวัน แค่ตอนทา แล้วกลิ่นก็หายไป 
ส่วนตัวก็โอเคนะ ราคาก็ไม่ค่อยแพง แต่จำไม่ได้ล่ะว่าเท่าไหร่ เพราะดันทิ้งใบเสร็จไปซะแล้ว 




วันพุธที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2567

ไปนั่งจิบชากาแฟ ในขณะที่ลูกไปโรงเรียน ^^

วันนี้สามีหยุด เลยชวนเขาไปร้าน OB ที่ไม่ได้ไปนานมาก 9 ปีได้มั้ง ลูกก็ไปเรียนก็ใช้เวลานี้แหล่ะ นั่งทานแบบชิว ๆ 555
สามีสั่งโกโก้ แก้วใหญ่มาก 
ส่วนเราสั่งชานมร้อน อร่อยดีเหมือนกัน ^^









 

วันอาทิตย์ที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2567

เพิ่มความรู้ให้ตัวเอง สำหรับสอนการบ้านให้ลูก

 วันนี้พาลูกชายไปขึ้นรถไฟ ไปห้างแถว ๆบ้านก่อนกะว่าถ้ามีเวลา วันหยุด จะค่อย ๆ พาเขาไปที่ที่ไกลขึ้นหน่อย  อยากให้เขาฝึกการขึ้นรถไฟไปไหนเองได้  เพราะส่วนใหญ่เรากับสามีจะขับรถพาเขาไป  พอเขาจะขึ้นป.4 รู้สึกว่าจะต้อง เตรียมอะไรหลาย ๆอย่าง 

อาจจะเพราะมีเรื่องม.ต้นที่เคยไปฟัง  ฟังแล้วลูกเรายังทำอะไรเองไม่ได้เยอะมาก เพราะฉะนั้นตั้งแต่นี้เลยต้องพยายามฝึกลูกให้มากกว่านี้

วันนี้เข้าร้านหนังสือได้ 2 เล่มนี้มา ก่อนอื่นเราต้องอ่านเลย เพราะตอนนี้ป.3 ตอนสอนการบ้านลูก จะมีปัญหามาก  ตอน ป.1 ป.2 ยังไม่ค่อยมีปัญหาเท่าไหร่. พอตอนป.3 นี่แหละ. อธิบายศัพท์ไม่ถูก. ได้แต่เขียนวิธีการให้ แต่ลูกเราเขาก็ยังไม่ค่อยเข้าใจอยู่ดี  เราเลยเริ่มหงุดหงิด  แล้วตามมาด้วยอารมณ์  สอนปนน้ำตา (ลูกชาย)   

ต่อไปเราคงต้องใจเย็นและศึกษาภาษาญี่ปุ่นให้มากกว่านี้








วันศุกร์ที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2567

ชุดของเด็ก ๆ (หญิง ชาย) ที่จะใส่ในวันปฐมนิเทศขึ้น ป.1 โรงเรียนประถมที่ญี่ปุ่น

ชุดของเด็ก ๆ (หญิง ชาย) ที่จะใส่ในวันปฐมนิเทศขึ้น ป.1 โรงเรียนประถมที่ญี่ปุ่นในเดือนเมษายน  ตอนนี้มีขาย น่ารักมาก ๆ ตอนลูกเราอนุบาล ไม่ได้ใส่ชุดแบบที่เขาขาย ทางโรงเรียนให้ใส่ชุดนักเรียนของโรงเรียนอนุบาลเลย แต่ตอนจะขึ้นป.1 ก็ไปหาซื้อชุดแบบนี้เหมือนกัน ลูกเราเป็นเด็กผู้ชาย ก็มีให้เลือกไม่เยอะเท่าไหร่ ก็คือใส่แบบสูท เลือกไม่ยากเลย แต่ของเด็กผู้หญิงน่ารัก ๆ ทั้งนั้นเลย เป็นเราก็คงเลือกไม่ถูกเหมือนกัน