วันอังคารที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

ไปเที่ยววัดท่าซุง จ. อุทัยธานี สวยมาก

กลับไปเมืองไทยครั้งนี้ได้ไปวัดท่าซุง จ.อุทัยธานีด้วย แวะที่วิหารแก้ว สวยมาก ตั้งใจอยากจะดูตอนถวายสังฆทานองค์พระพุทธรูป แต่ไปไม่ทัน ก็เลยวางเหรียญ 10 บาท ที่พระหัตถ์ของพระพุทธรูปเพื่อร่วมอนุโมทนาบุญกับคนที่จะถวายสังฆทานด้วย
แล้วช่วงเช้าเขาจะปิดที่ 11.45 เพื่อจะให้ทำกรรมฐาน โชคดีมาก ๆ ที่ไปทัน 























 

วันอาทิตย์ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

ของฝากจากญี่ปุ่น July 2024

กลับเมืองไทยครั้งนี้ รายการของฝากที่ฝากให้ซื้อจากคนในครอบครัว 



โฟมล้างหน้า

ขนม

ครีม โ่ลชั่น กันแดด

ชาเขียว

มาร์คหน้า

แปะแก้ปวด

เจลลี่

เจลลี่


ขนมแจกเด็ก ๆ 

สำหรับแลกของขวัญกัน

สำหรับแลกของขวัญกัน

สำหรับแลกของขวัญกัน

ของรางวัลสำหรับเล่นบิงโก

ของรางวัลสำหรับเล่นบิงโก

กางเกงเด็ก

 

วันจันทร์ที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

ธนบัตร 1000 เยน แบบใหม่

 หลังจากที่ญี่ปุ่นเริ่มใช้ธนบัตร 1000 เยน 5000 เยน 10000 เยน แบบใหม่ตั้งแต่วันที่ 3 ก.ค. 2024 (แบบเดิมก็ยังสามารถใช้อยู่)

เราก็เพิ่งได้ธนบัตร 1000 เยน แบบใหม่มาเมื่อวันเสาร์ที่ 20 ก.ค. นี้เอง จากซุปเปอร์  จริง ๆ ธนบัตร 10000 เยน ก็ได้ตั้งแต่วันที่ 19 ก.ค. จากตู้ ATM แล้ว แต่ลืมถ่ายรูปเก็บไว้ เอาไปใช้ซะหมดเลย 555


ใบบนเป็นธนบัตรแบบใหม่

ด้านหลัง (ใบบนเป็นธนบัตรแบบใหม่)


วันศุกร์ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

ธนบัตร 10000 เยน แบบใหม่

จริง ๆ ธนบัตร 10000 เยน ก็ได้ตั้งแต่วันที่ 19 ก.ค. จากตู้ ATM แล้ว แต่ลืมถ่ายรูปเก็บไว้ เอาไปใช้ซะหมดเลย 555
โชคดีที่ตอนที่ให้สามี สามีเขายังไม่ได้เอาไปใช้อะไร เลยขอมาถ่ายรูปเป็นที่ระลึก ^^

ใบบนจะเป็นแบบใหม่

ใบบนจะเป็นด้านหลังของแบบใหม่

 

วันอังคารที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2567

เป็นโควิดรอบที่ 2 กับยาที่ใช้รักษาตอนอยู่ที่ญี่ปุ่น

ตอนที่ติดโควิดครั้งที่ 1 โชคดีกลับไปเมืองไทยพอดี (ตอนนั้นการรักษาโควิดที่ญี่ปุ่นค่อนข้างยุ่งยาก และเหมือนจะให้อยู่รักษาที่บ้าน) ระหว่างที่อยู่ไทย ก็เริ่มมีอาการ น้องชายก็แนะนำโรงพยาบาลของเพื่อนเขา แล้วเราทั้งครอบครัวก็ได้รักษากันที่โรงพยาบาลนั้น 

ครอบครัวเรานอนโรงพยาบาลกันอยู่ประมาณ 10 คืนได้ การดูแลก็ถือว่าดีมาก ๆ เพราะอย่างที่รู้กัน จะพยายามอยู่ใกล้ผู้ป่วยให้น้อยที่สุด ตอนนั้นก็ห้ามเยี่ยม อาหารการกิน ของใช้ ก็จะวางที่โต๊ะที่ทางโรงพยาบาลจัดวางไว้หน้าห้องผู้ป่วย 

ยาที่ได้ก็จะมียาต้านไวรัสด้วย ของทั้งสามี ตัวเรา แล้วก็ลูก

พอมาคราวนี้ ผ่านมาจะเกือบ 2 ปี ครอบครัวเราก็มาติดอีกอยู่ญี่ปุ่น  ครั้งที่ 2นี้ เริ่มมาจากสามี ลูกก็มาติด แล้วเราก็มาติด 

อาการของโควิดที่ครอบครัวเราติดครั้งที่ 2 (สามีครั้งที่ 3)

เริ่มจากสามีเจ็บคอ วันเสาร์ที่ 15 ทานยาแก้เจ็บคอที่ซื้อทานเอง ตรวจชุดตรวจทางจมูก ขึ้น 1 ขีด

วันที่ 16 อาการก็ไม่ดีขึ้น แถมเริ่มมีไข้ ตรวจชุดตรวจทางจมูก ก็ยังขึ้น 1 ขีด  

วันที่ 17 ก่อนไปทำงาน ก็เลยให้ตรวจทางจมูกอีกรอบ เพราะอาการไม่ดีขึ้น ผลคือขึ้น 2 ขีด สามีรีบโทรไปลางานเลย แล้วก็ไปโรงพยาบาล ก็ได้ยารักษาตามอาการมา 

วันที่ 21 คุณหมอบอกว่าออกจากบ้านได้ แต่ให้ใส่หน้ากากอยู่ เพราะอาจจะยังแพร่เชื้อได้อยู่

วันที่ 22 ตรวจชุดตรวจทางจมูก ก็เลยแค่ 1 ขีด ก็โอเคหายสนิทแล้ว


มาที่ลูกชาย เริ่มมีอาการวันที่ 18 จากการกระแอม เหมือนมีเสมหะ ตรวจชุดตรวจ ขึ้น 1 ขีด

วันที่ 19 กลับจากโรงเรียน เสียงเหมือนคนเป็นหวัด เริ่มมีน้ำมูก 

วันที่ 20 ลองตรวจชุดตรวจดู ขึ้น 2 ขีด เลยลาหยุดโรงเรียน พาไปหาหมอ คุณหมอก็ตรวจปอด ดูช่องปาก ก็บอกไม่เป็นไร  โชคดีที่ไม่มีไข้ คุณหมอก็ให้ยาตามอาการมา 

วันที่ 24 คุณหมอบอกสามารถไปโรงเรียนได้แล้ว ก่อนไปโรงเรียนก็ตรวจดู ขึ้น 1 ขีด ก็โอเคสบายใจ จะได้ไม่ไปติดใคร 


มาส่วนของตัวเราเอง อาการก็เหมือนจะมีเสมหะในลำคอ น่าจะพอ ๆ กับช่วงของลูกชาย แต่ตรวจดู ก็ขึ้น  1 ขีด ตรวจเกือบทุกวันก็ขึ้น 1 ขีด

มาขึ้น 2 ขีดก็วันที่ 22 ก็เลยไปหาคุณหมอ คุณหมอก็ให้ยามา ตามอาการที่เราแจ้งไป คุณหมอไม่ได้มาตรวจที่ตัวนะ ตัวเราให้รออยู่ที่รถ แล้วก็บอกอาการไป สักพักใหญ่ ๆ ก็จะมีเจ้าหน้าที่ร้านยา เอายามาให้ 

ของเราก็ไม่มีไข้ เริ่มจากคอ เหมือนจะมีเสมหะตลอดเวลา มีไอบ้างเล็กน้อย มีน้ำมูกก่อนวันขึ้น 2 ขีด มีปวดท้องที่กระเพาะ (ไม่รู้เกี่ยวกับหรือเปล่า) ปวดตามแขน ขา หลัง

ยาโควิดของเราก็ไม่มียาต้านไวรัส  จะมี 

① ピーエイ配合錠

② カルボシステイン錠500mg

③ トランサミン錠250mg

④ アスベリンドライシロップ2%

⑤ タリオンOD錠10mg

⑥ ロキソニン錠60mg

วันที่ 23 น้ำมูกเริ่มมีสีเขียวจากที่ใส  แล้วเสมหะก็เริ่มออกมาเป็นสีเขียว

วันที่ 24 คุณหมอบอกให้ออกนอกบ้านได้ แต่เราตรวจดูก็ยังขึ้น 2 ขีด อาการของน้ำมูก เสมหะก็ยังมีอยู่ แต่น้อยล่งไปนิดหน่อย 

วันที่ 25 ตรวจว่าเหลือ 1 ขีดยัง ก็ยัง 2 ขีดอยู่ มาเหลือ 1 ขีดก็วันที่ 26 สบายใจหล่ะ

มาตราการของที่ญี่ปุ่นกับโควิด ก็ดูเหมือนจะเข้มงวดน้อยลงกว่าเมื่อก่อนมาก คือนับจากวันที่เริ่มมีอาการ 

วันที่เริ่มมีอาการถือเป็น 0 วัน  วันที่ 1 - วันที่ 5 ให้อยู่ในบ้าน วันที่ 6 ก็สามารถออกนอกบ้านได้ แต่คงให้ใส่หน้ากากอยู่