วันเสาร์ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2556

เรื่องของซุปเปอร์บางที่ของญี่ปุ่น (ต่อ) (日本のあるスーパーについて (続き))

จากตอนที่แล้วที่เขียนเรื่องซุปเปอร์ของที่ญี่ปุ่น
พอดีเพิ่งนึกได้ว่ามีอีกประมาณ 4 เรื่อง ก็เลยขอเพิ่มเติมนะคะ

前回日本のあるスーパーについて投稿しましたが
4件を思い出して新しい投稿をさせていただきます。


1. การไปซุปเปอร์ของคนญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะเลือกไปตอนเย็น ๆ เพราะว่าทางซุปเปอร์จะมาปิดป้ายลดราคาอีก 30 % บ้าง 50 % บ้าง แล้วแต่ ที่มาติดป้ายลดราคาก็เพราะว่า ของที่ว่านั้นใกล้หมดอายุแล้ว
เพราะฉะนั้น พอถึงเวลานั้น แต่ละคนก็จะยืนรอเจ้าหน้าที่ร้านปิดป้ายราคาลดให้เสร็จ แล้วก็หยิบใส่ตระกร้า ก็จะมีพวกเนื้อ, เบนโตะ , นม เป็นต้น

1. スーパーに行く時間はほとんど夕方になります。なぜかというと、その時は賞味期限が近いため、30%か50%かの「おつとめ品」を貼りますからです。ですから夕方はおつとめ品を買いに行く客が多くなります。おつとめ品は大体は肉や弁当や牛乳などです。








2. ตอนที่ต่อแถว ซุปเปอร์ที่เราไปจะเปิดแค่ 1 แคชเชียร์ พอเห็นแถวเริ่มเยอะ ก็จะกดกริ่งเรียกให้พนักงานมาเปิดอีก 1 แคชเชียร์ แล้วก็จะเรียกลูกค้าที่ยืนอยู่คิวถัดไปให้มาจ่ายที่นี่  เคยเจอเหมือนกันที่คนคิวสุดท้ายแซงไปจ่ายก่อน แต่ส่วนใหญ่แล้วคนญี่ปุ่นจะไม่ค่อยทำกัน จะเรียงตามลำดับ

2. 列に並んでいる時に行っているスーパーのレジは1か所でやっています。店員は列が長いとみたらもう1か所のレジをやって次の客をこちらに払ってくださいと声かけます。最後の客は2か所目のレジに行ったのを見たことがありますがほとんどの日本人はやりませんね。皆さんは順番で並んでいます。


3. บางที่จะมีจุดวางของที่ลดราคาแล้ว บางครั้งเราก็เลือกซื้อของจากตรงจุดนี้ เพราะถูกดี
อย่างเช่นส้ม กับองุ่น ก็ซื้อจากจุดที่ว่านี้ค่ะ

3. あるスーパーでは「値下げた」「お得」の物が置いている場所があります。 私はここの物を買ったときもあります。安いからです。
この写真はそこで買いました。




4. เวลาเราใช้ตระกร้าหรือรถเข็นเสร็จเรียบร้อยแล้ว เขาจะมีที่จุดที่ให้วางตระกร้ากับรถเข็น จะต้องวางตามที่เขากำหนดไว้นะคะ

4. かごやカートを使い終わったら置き場に戻さなければなりません。


ตอนแรก ๆ ที่ไปซุปเปอร์ บอกตรง ๆ ตื่นเต้นมาก ก็จะพยายามดูคนอื่น ๆ ว่าเขาทำกันยังไง ตอนนี้เริ่มชินแล้วหละ ^^

最初にスーパーに行った時は正直に言うと緊張しましたよ。ほかの人はどうやって買い物するか見てからやりました。今は慣れてきましたよ。^^




วันพุธที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2556

เรื่องของซุปเปอร์บางที่ของญี่ปุ่น (日本のあるスーパーについて)

ซุปเปอร์ของญี่ปุ่นที่เราไปซื้อของ มีบางอย่างจะต่างจากซุปเปอร์ของไทย อย่างเช่น

私が行ったきた日本のスーパーはあることについてタイのスーパーとは違います。例えば、

1. พอไปถึงแล้ว ถ้าเป็นซุปเปอร์ไทย จะมีเค้าท์เตอร์รับฝากของใช่ม่ะ แต่ว่าที่ญี่ปุ่นจะไม่มีเค้าท์เตอร์แบบนั้น แต่จะมีเป็นล็อกเกอร์ให้ใส่ของแทน ล็อกเกอร์บางที่อาจจะเสียเงิน แต่ที่ที่เราไปให้หยอด 100 เยน แล้วพอไปเอาของ 100 เยนที่เราหยอดไปก็จะได้คืน เพิ่งมารู้เรื่องนี้เมื่อวาน เพราะคุณซูไปใช้บริการนั่นเอง มาอยู่ที่ญี่ปุ่นเกือบจะ 8 เดือนแล้ว ไม่รู้เรื่องเลย บางครั้งถือของพะรุงพะรังเดินเขาไปซื้อของ นึกแล้วเขินจัง เปิ่นจริงๆ เลยเรา


1. スーパーに着いたら、タイのスーパーだったら物を預けるカウンターがあります。でも日本のスーパーはそのようなカウンターがないです。コインロッカーとなります。お金がかかるロッカーはあると思いますが、私が行ってきたスーパーのコインロッカーは100円を入れて使い終わったら100円が戻ります。このことについて昨日知ったばかりですよ。なぜかというと主人が使ったからです。約8ヶ月日本に住んでいるのに知らなかったです。時々たくさんの荷物を持って買い物します。思い出したらちょっと恥ずかしいですね。(照)


แต่เขาเขียนเอาไว้ว่า ให้ใช้แค่ภายในวันนั้น

でも、使ったら「当日限りです。」と書いています。



2. ซุปเปอร์ที่เราไป จะมีให้สะสมแต้ม ซื้อเท่าไหร่ จะเท่ากับ 1 แต้มก็แล้วแต่ซุปเปอร์ ถ้าแต้มครบ 500 แล้ว ก็จะมีออกใบแบบนี้มา ใช้แทนเป็นสดได้ 500 เยน  บางที่ก็จะมีกลยุทธ์วันนี้ออกใบลด 10 % เมื่อซื้อครบ 1000 เยน เอาไว้ใช้ในวันที่เขาระบุ


2. 行ってきたスーパーはポイントカードがあります。いくら買ったか1ポイントが付くかスーパーによって違いますね。500ポイントになったらこのような紙を渡されます。500円で現金と同じように使えます。あるスーパーは10%割引券発行という戦力があります。1000円で買ったら発行されます。示している日付に使えます。





3. หลังจากที่คิดเงินเรียบร้อยแล้ว เราต้องยกตระกร้ามาไว้ที่ที่ใส่ของ แล้วก็บริการตัวเอง ถ้าเป็นที่เมืองไทย พนักงานจะใส่ให้

3. 支払が終わった後、自分でかごを袋に入れる所に持っていってやります。タイのだったら店員が入れてくれますね。



ถุงใส ๆ แบบนี้จะไว้ใส่พวกเนื้อ หรือผลไม้ เป็นต้น

このような透明な袋は肉や果物などを入れいます。



เราว่าของในซุปเปอร์บางอย่างสะดวกดี มีหั่นให้เรียบร้อยเลย
อย่างเนื้อหมูนี้จะสำหรับทำแกง

私は日本のスーパーのある物は便利です。カットしてくれるからです。
この写真はカレー用豚肉です。 


หมูสับ

挽肉
 
ต้นหอมหั่นแล้ว
長ねぎカット


ยังมีอีกเยอะเลย เราขอลงเท่านี้ละกัน เพราะเดี๋ยวจะมีแต่รูป 555

まだまだありますよ。写真はこれで載せますね。

ซุปเปอร์บางที่จะมีคล้ายของแบบไทย ๆ ด้วย อย่างเช่นผักชี ผักบุ้ง เครื่องกระป๋องก็จะมีแกงเขียวหวาน แกงกระหรี่ แกงเผ็ด กระเพรา ต้มยำ

あるスーパーはタイでも売っているものがあります。例えば、パクシー、空芯菜。缶詰めもあったグレーンカレー、イエローカレー、レッドカレー、ガパオ、トムヤン。








4. ซุปเปอร์บางที่มีเก็บเงินค่าถุงแล้ว อย่างถุงนี้เราโดนไป 5 เยน

4. あるスーパーは袋が有料となっています。この日は5円も取られました。(泣)




เพิ่มรูปให้ดูว่า 5 เยน คือถุงแบบนี้อ่ะคะ

取られた5円って、このような袋です。(追加写真)





เดิน ๆ ดูของ ไปสะดุดมีเบียร์สำหรับเด็กขายด้วย น่าสนใจดี เลยซื้อมา 1 ขวด แต่ยังไม่ได้ลองว่ารสชาติเป็นยังไง

店内を見て歩いていたら、子どものビールが売っているのを見かけました。面白いなと思って1本で買ってしまいました。まだ試食していないので、どのような味があるかわかりません。



ส่วนนี่ก็จะเป็นบรรยากาศของซุปเปอร์ที่ญี่ปุ่น (บางส่วน)

下の写真は日本のスーパーの雰囲気です。(あるところです。)





ขอบคุณรูปจาก Google ค่ะ
Googleの写真に参考します。ありがとうございます。


ปล. ภาษาญี่ปุ่นต้องมีผิดอยู่แล้ว ห้ามใช้ไปอ้างอิงสำหรับการเรียนภาษาญี่ปุ่นนะคะ ^0^
ちなみに、間違っている日本語が多いと思いますので日本語の勉強のために使わないでくださいね。^0^














วันจันทร์ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ของเกือบทุกอย่างจะมีเขียนคำว่า "เปิด, ฉีก ตรงนี้" ほとんどの物は「あけくち又はお開けてください」と書いてあります。

เราลองมาสังเกตดูของใช้ในชีวิตประจำวันของญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นขนม กล่องยา ฯ จะมีเขียนว่าให้เปิดตรงนี้ ซึ่งถ้าเปิดตรงที่เขาเขียนก็จะเปิดหรือฉีกง่ายเชียว แต่ถ้าเปิดหรือฉีกตามใจชอบ (ไม่ใช่ที่ที่เขาเขียนให้ฉีก) จะฉีกยากมาก บางครั้งต้องใช้กรรไกรช่วยเลยทีเดียว

แล้วเขาเขียนว่าให้เปิดหรือฉีกตรงนี้ เขาเขียนตัวคันจิว่ายังไง
ขอยกตัวอย่างด้วยรูปหละกันนะคะ

私は日本の日常品をよく見たら、お菓子でも薬でもなどなどには開け口を書かれていると気がします。
書かれたところにやったら簡単に開けますが好きなところにやったら(開け口以外のところ)開け難くなります。時にははさみを使わなけれなりません。

漢字はどういう風に書かれてあるか次の写真の通りに例を挙げますね。

อย่างรูปแรกจะเป็นซองขนม (ซองนี้จะเป็นซองเล็กที่อยู่ข้างในซองใหญ่อีกที)
ตรงที่เราทำวงกลมสีดำไว้ จะเป็นให้ฉีกตรงนี้

まずはお菓子の袋です。(この袋は大きいの中身の一つです。)
黒い丸をついているところは「あけくち」になります。




หรือถ้าฉีกตามที่เขาเขียนแล้ว แต่ฉีกยาก  เขาก็จะบอกให้เปิดแบบแนวตั้ง

あけにくい場合は、タテ方向にあけてください。



กล่องยาก็มีบอก

薬にも「開封口」





ไอศครีมก็มีบอก (ภาพอาจจะเบลอไปหน่อย)

アイスクリームにも (写真はちょっとぼんやりして申し訳ない。。。)




ซองบิลแจ้งค่าไฟก็ยังมี

電気代の請求書の封筒にもあります。




แปรงสีฟันก็ด้วย
歯ブラシも





สมกับที่เป็นญี่ปุ่นจริง ๆ

さすが日本ですね。




รถไฟ JR ตะวันออกได้นำระบบที่ผู้โดยสารต้องเปิดปิดประตูด้วยตนเองมาใช้กับบางสถานี บางขบวนแล้ว

พอดีอ่านข่าวเจอเกี่ยวกับการเปิด-ปิดประตูรถไฟด้วยตนเอง (จากเดิมจะเป็นประตูอัตโนมัติ) ของสาย JRตะวันออก  

เนื้อหาข่าวก็คือ
ตั้งแต่วันที่ 19 ส.ค. 56 ทางสาย JR ตะวันออกได้นำระบบที่ผู้โดยสารต้องเปิดปิดประตูด้วยตนเองมาใช้
การนำระบบนี้มาใช้จะใช้กับสถานีต้นทางของ 5 สถานี ได้แก่ สถานี Tokyo,  สถานี Shinagawa, สถานี  Atami กับสถานี Odawara, สถานี Itou สายShizuoka-Itou
ทางสาย JR ตะวันออกได้บอกมาว่า  เนื่องจากขบวนรถที่จะออกจากสถานีต้นทาง ก่อนจะออกขบวนรถจะเปิดประตูทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที จึงทำให้ประสิทธิภาพของการทำความเย็นของแอร์แย่ลง
ผู้โดยสารได้มีการพูดมาว่า "ตอนที่รอขบวนออก ถ้าประตูจะเป็นการดีกว่า เย็นดี" "การปิดประตูน่าจะเป็นการประหยัดพลังงานนะ" 
ทาง JR ตะวันออกก็จะดูปฏิกิริยาของผู้โดยสาร และจะพิจารณาว่าควรจะขยายสถานีให้เพิ่มมากขึ้นหรือไม่

JR東海道線では、19日から、乗客自らがドアを開閉するシステムを導入した。
このシステムを導入したのは、東海道線で始発駅となっている、東京駅、品川駅、熱海駅と小田原駅、静岡・伊東線の伊東駅の5つの駅。
JR東日本によると、東海道線の電車は、始発駅を出発するまで、10分程度ドアが開いたままの状態のため、冷房の利きが悪くなっていたという。
利用客は、「閉めていた方が待っているときは涼しいので、いいと思います」、「電気の節約になるんじゃないですか」と話した。
JR東日本は、今後、乗客の反応を見て、これ以外の駅にも拡大させるか検討したいとしている。


อ้างอิงแหล่งข่าวจาก FNN


ถ้าใครได้มีโอกาสมาญี่ปุ่น แล้วได้ใช้บริการของขบวนที่เขาใช้ระบบแล้ว
บางครั้งเราอาจจะลืมนึกว่าเป็นระบบประตูออโต้ "เอ๊ะ ทำไมประตูไม่เปิด เสียหรือไง" ไม่ใช่นะคะ เขาเปลี่ยนมาใช้ระบบเปิดปิดด้วยตัวเองแล้วนั่นเอง ^0^


แล้วก็พอดีเรามีบัตร Suica Card ที่ได้จากคุณซูมา ช่วงแรก ๆ ที่ต้องเติมเงินเอง จะงง ๆ เติมไม่เป็น แต่ตอนนี้เริ่มโอเคหล่ะ เลยขออัพวิธีการเติมเงินมาให้ดูนะคะ
เครื่องแต่ละเครื่องอาจจะไม่เหมือนกัน แต่วิธีการจะคล้าย ๆ กันค่ะ

 ตัวอย่างบัตรค่ะ



คำศัพท์ที่ใช้นะคะ

カード =การ์ด
チャージ = การเติมเงิน
紙幣  = ธนบัตร
領収書 = ใบเสร็จ (สำหรับคนที่ต้องการ)

วิธีเติมเงิน

1. ใส่บัตรในช่องที่เขียนว่า "カード"
2. จากนั้นเลือกที่เขียนด้วยกระดาษว่า チャージ=> จะตรงกับหน้าจอที่่เป็นปุ่ม Passmo (สามารถใช้กับ Suica Card ได้คะ)
3. หน้าจอเขาขึ้นยืนยัน チャージมาให้อีกครั้ง ก็สัมผัสหน้าจอ
4. หน้าจอจะขึ้นจำนวนเงินที่ต้องการเติม (ในที่นี่เราเติม 1000 เยน)
5. หน้าจอจะมี 領収書 ให้สัมผัส ถ้าใครต้องการใบเสร็จด้วยก็สัมผัส ถ้าไม่ต้องการก็ไม่ต้องไปสัมผัสอะไร
6. ใส่ธนบัตรที่ช่องที่เขียนว่า "紙幣" แต่ถ้ามีเหรียญด้วย ก็ให้หยอดที่ช่องเหรียญที่อยู่ข้าง ๆ
7. บัตร กับเงินทอนก็จะออกมา
8. ใบเสร็จก็จะออกมา






วันศุกร์ที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2556

งานแสดงแมมมอส (特別展マンモス)

วันนี้คุณซูพาไปดูฟอสซิลแมมมอส งานนี้จัดแสดงอยู่ที่ Pashifuiko Yokohama Hall A สถานี "Minatomirai"
ค่าเข้าคนละ 2200 เยน แพงไปหน่อย แต่ก็ได้ความรู้เกี่ยวกับแมมมอสมาเยอะเลย สนุกดี ขอบคุณคุณซูมากนะคะ

今日、主人がモンモスの化石を見に連れて行きました。この展示会はみなとみらい駅パシフィコ横浜 ホールAにあります。
入場料は1人あたり2200円でした。ちょっと高かったですがマンモスというものについて意識をたくさん得ました。楽しかったです。ありがとうね。^^


 
 
  
รูปข้างล่างนี้เป็นบรรพบุรษของช้าง หน้าตาเหมือนหมูเลยเนอะ (ขนาดเขาย่อส่วนมาอีกทีนะคะ)
 
この写真はゾウの祖先です。豚に似ていますね。(サイズは小さくされていますよ。)
 
 
 
แล้วค่อยวิวัฒนาการมาแบบนี้
 
このように進化されています。
 
 
 
 
กระดูกช้างดึกดำบรรพ์ของญี่ปุ่น
 
 日本の大昔のゾウ「ナウマンゾウ」の骨です。
 


ปลายงวงช้างมีรูปร่างต่างกันแหละ

 
ゾウの鼻先の形が違うんだ。
 
 
 ฟันของช้าง
 
ゾウの歯です。

 
 


 

หนังของช้าง

ゾウの皮膚です。

 
 
ขนของช้าง
 
ゾウの毛です。
 
 
 
กระดูกของทารกช้างเคแมมมอส
 
ケマンモスの胎児の骨です。
 
 

ใช้กระดูกหนังงามาทำเป็นบ้าน

マンモスハウス 

 
 
เอากระดูกช้างมาทำเป็นเข็ม

ぬいばり 


พอเสร็จจากดูงานนี้แล้ว คุณซูกะว่าจะใช้ไปดูที่พิพิธภัณฑ์ Cupnoodles แต่พอไปถึงเขาปิดแล้ว เสียดายจัง

次に、主人はCupnoodles Museumに行きたかったですが、受付が終了したということになっていますので。残念でした。

 

ก่อนกลับบ้าน ก็ขอวิวของโยโกะฮะนิดนึง

帰る前、横浜の景色の写真を撮りました。






พอดีมีหนังสือที่เราอยากได้ เลยไปที่ Kinokuniya Shinjuku แต่พอไปดูแล้ว ไม่เอาดีกว่า เพราะซื้อมาคงไม่ได้อ่านแน่ ๆ เป็นหนังสือเกี่ยวกับการเขียนวิทยานิพนธ์ สำหรับนักศึกษาหรือนักเรียนต่างชาติ เราคงไม่ใช่นักศึกษาแล้ว อารมณ์ขี้เกียจเลยเยอะ
แต่ก็ได้หนังสือชุดนี้มา สำหรับเด็กประถม (ขนาดของเด็กนะ เราว่ายังยากเลยอ่ะ เด็กญี่ปุ่นนี่เรียนกันเยอะจริง ๆ สุดยอดเลย)

欲しい教科書があったので新宿にある紀伊国屋に行きました。しかし、その本を見たら買ったら読まないと思って止めました。その本の内容は大学生や留学生のため論文を書き方です。
自分はもう大学生じゃないか、また怠ける気持ちが入ってくるか買わないことにしました。

そして、これらの本がゲット。
小学生の教材ですが難しいと思います。(日本人の子供は本当にたくさん勉強していますね。すごい~)
 
 
 
จากนั้นไหน ๆ ก็มาอยู่แถวชินจูกุแล้ว คุณซูเลยบอกไปกินอาหารไทยกัน  ที่เรารู้จักก็จะเป็นร้านแก้วใจ คุณซูเลยหาจากอินเตอร์เน็ทเลยว่าอยู่แถวไหน มาถึงร้าน ลูกค้าเยอะ เลยได้ที่นั่งแบบเค้าท์เตอร์บาร์
 
せっかく新宿にいたので主人はタイ料理を食べようと言っていました。私が知っている店は「Keawjai」というんで、主人は位置をネットで調べました。店に着いたら客が多かったです。カウンターバーで食べることになりました。
 

น้ำที่สั่ง น้ำมะม่วง กับน้ำฝรั่ง แก้วละ 350 เยน

注文したジュースはマンゴージュースとグアバジュースでした。 値段はそれぞれ350円

 
จานนี้ฉูฉี่ปลาราดข้าว จานละ 900 เยน
 
これは、シュシーパでした。900円

 
ส่วนจานนี้แกงกระหรี่ราดข้าว ชุดละ 900 เยน
 
これは、イエローカレーでした。900円

 
ของกลาง ไก่ผัดเม็ดมะม่วงหิมพานต์ จานละ 750 เยน
 
おかずは「ガイパッメッマムォヒマパン」でした。750円

 
อร่อยมาก คิดถึงอาหารไทย,,,, ราคาของร้านนี้เราว่าไม่แพงมาก เพราะเคยไปกินที่นึง คิดจานละ 1000 เยนแหนะ
 
とても美味しかったです。タイ料理が懐かしい~
この店の値段はそんなに高くないと思います。ある店で食べて1000円もかかりました。