วันอังคารที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

23 ก.ค. 56 เดินทางกลับญี่ปุ่น

ตื่นมาตี 2 อาบน้ำ เสร็จแล้วก็ออกจากโรงแรม ยามเรียกรถแท็กซี่ให้ ระหว่างทางคนขับก็ดูแปลก ๆ เดี๋ยวเปิดไฟเลี้ยวซ้ายบ้าง เลี้ยวขวาบ้าง แต่ไม่ได้เลี้ยวนะ เปิดแล้วก็ปิด มีใกล้ถึงสุวรรณภูมิแล้ว ก็ปล่อยคันเร่งกลางทางด่วน ปล่อยรถจอดซะงั้น เรากับคุณซูกลัวมาก ๆ กลัวทั้งคนขับ กับกลัวรถคันหลังชน
โชคดีมากที่เดินทางมาถึงโดยปลอดภัย คงเป็นเพราะยังเช้ามืดอยู่ รถยังไม่เยอะเท่าไหร่ ไม่อย่างงั้น...

Flight UA 838 จากกรุงเทพฯ 6.00 น. ถึงนาริตะ 14.15 น.

มาถึงก็เช็คอิน กระเป๋าคุณซูประมาณ 22 กิโลนิด ๆ กระเป๋าเรา 23 กิโล นิด ๆ แต่เจ้าหน้าที่ก็ให้โหลดผ่าน

แล้วก็มาถึงที่เช็คกระเป๋าถือ ของสายการบิน UA เข้มงวดมาก ตรวจตอนนี้ แล้วยังมีตรวจก่อนขึ้นเครื่องอีก 2 ครั้ง ดีที่ไม่มีอะไร เพราะเจ้าหน้าที่มีหยิบ ๆ ครีมทามือขึ้นมาด้วย


พอขึ้นเครื่องปุ๊บ เรากับคุณซูก็หลับปั็บ ครั้งนี้มีฝรั่งผู้หญิงมานั่งข้าง ๆ เราด้วย ก็เลยไม่ได้ลุกไปเข้าห้องน้ำเลย เพราะเกรงใจเขา

ตื่นมาอีกทีก็อาหารเช้า

 
แล้วก็ของว่างก่อนเครื่องลง
 
 
พอเครื่องจอดก็ไปที่กองตรวจคนเข้าเมือง ครั้งนี้ไม่ต้องกรอกแผ่นเข้าเมืองใหม่ ให้ไปต่อแถวที่ช่อง Re entry แล้วเขาก็จะดึงแผ่นที่แสตมป์ของตอนเดินทางออกออกไป
แต่ว่าจะต้องกรอกใบเหลือง ๆ นี่ จะมีด้านหน้ากับด้านหลัง เหมือนจะเป็นใบสำแดงของ  ของเราคุณซูเป็นคนกรอก ครอบครัวละใบ ยื่นตอนหยิบกระเป๋าแล้วกำลังจะออกไปที่จุดนัดพบของสนามบิน
 
 
 
เราอยากซื้อ Royce คุณซูเลยจอดรถ แล้วก็เข้าไปซื้อที่ตึกออกเดินทาง
พอซื้อเสร็จ ก็มาเจอรายการ [Youは何しに日本へ] ด้วย กำลังสัมภาษณ์คนต่างชาติที่มาญี่ปุ่น
 
 
 
แดดแรงมาก ไม่มีลมเลย ระหว่างทางก็แวะกินซูชิหมุนแถว ๆ นั้น
 
 
แล้วเราก็อาสาคุณซูขับรถกลับ ระหว่างทางเจอฝนตกอีก...
มาถึงบ้านก็จัดของ ซื้อของมาทำกับข้าวแล้วก็เตรียมสำหรับโอะเบนโตะคุณซูวันพรุ่งนี้
 
 
 

ดอกลิลลี่ที่ออกดอกเมื่อเดือน ก.ค. 56

คุณซูปลูกต้นลิลลี่เดือนไหนก็ไม่รู้ แต่ว่าเดือนที่ออกดอกจะเป็นเดือน ก.ค.
ดอกแรกที่ออกก็วันที่ 7 ก.ค. และหลังจากนั้นก็ออกตาม ๆ กันมา

 

 

 

 

 
 

 

 
 
แต่หลังจากกลับจากไทย ดอกก็ล่วงหมดแล้ว ส่วนต้นไม้ต้นอื่น คงเพราะมีคุณพ่อคุณซูมาช่วยดูให้ โตขึ้นเยอะเลย
 
 
 


 

วันจันทร์ที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

22 ก.ค. 56 แพลนวันที่ห้าของการกลับไทย (วันซื้อของเตรียมตัวเดินทางกลับ)

วันนี้ตื่นประมาณ 7 โมง ก็ไปกินข้าวเช้าของโรงแรม แล้วก็ออกไปซื้อของก่อน
วันนี้น่าจะใช้ BTS หลายเที่ยว เลยซื้อแบบประเภท 1 วัน ดีกว่า น่าจะประหยัดกว่า
ที่แรกที่เราไปซื้อของก็จะเป็นที่ Silom Complex ไปดูที่ร้าน Oriental Princess ว่าจะไปซื้อ Richly Vitamin E สำหรับทาตัว


แล้วก็ตระกูลเดียวกันสำหรับทามือ


แล้วก็ Enriched Protection & Whitening for body SPF30 ทากันแดด

แต่ไปที่ร้านสาขานี้ หมดทุกอย่าง เศร้า ทำไมขายดีขนาดนั้นเนี่ย หรือว่าไม่ผลิตแล้ว...
เลยไปดูที่ร้านวัตสันต่อ ก็ได้
1. Olay Total Effects 7 in one day cream  5 ขวด
2. Olay Total Effects 7 in one night cream 5 กระปุก
3. โฟมล้างหน้าของ Olay  2 หลอด
4. ครีมทาตัวของนีเวียแบบเป็นหลอด 2 หลอด
5. ไหมขัดฟัน
 
ที่เราต้องซื้อของกลับไปใช้ที่ญี่ปุ่น เพราะเราเป็นคนแพ้ง่าย เลยไม่กล้าเปลี่ยนยี่ห้อ จริง ๆ อยากใช้ของญี่ปุ่นมาก ๆ นะ แต่กลัวแพ้นี่แหล่ะ เฮ้อ
 
จากนั้นก็แวะ Tops ชั้นใต้ดิน ก็ได้ลองกองมาพวงนึง  แล้วก็มังคุดมา 8 ลูก คุณซูชอบมังคุดมาก ตั้งแต่มายังไม่ได้ชิมเลย แล้วก็ได้พวกผงปรุงอาหารของ Lobo แล้วก็ยี่ห้ออื่น ๆ มาพอสมควร   ซื้อล็อตนี้เสร็จก็เอาไปเก็บที่โรงแรมก่อน
กลับมาถึงโรงแรม ก็จัดของที่ซื้อลงกระเป๋าเดินทาง แล้วก็กินผลไม้ที่ซื้อมาก่อน  เสร็จแล้วก็ออกไปช็อปต่อ
ครั้งนี้ก็มาที่มาบุญครองกัน ลองมาแวะร้าน Oriental Princess ของสาขานี้ ก็ไม่มีสำหรับทาตัว  แต่มีสำหรับทามือ แล้วก็กันแดด เลยรีบซื้อเลย ก็จะได้ทามือมา 3 หลอด ทาตัวมา 2 หลอด กับอายไลเนอร์มา 1 แท่ง 
จากนั้นก็แวะกินข้าวกลางวันที่ ฮาจิบังราเมง กัน เราคงกินเผ็ดเกิน ท้องไส้ปั่นป่วนไปหมด
 
จากนั้นก็ไปซื้อของสำหรับเพื่อนคนญี่ปุ่น ก็แวะมาที่ร้านขายของแห้ง ผลไม้อบแห้ง ที่อยู่ชั้น 3 ของมาบุญครอง
 
จากนั้นแล้วก็แวะ Tops ของที่นี่ ก็ได้มะม่วงมา 3 ลูก กล้วย  สัปปะรด  มังคุดอีก 8 ลูก แล้วก็ครีม มาม่า แล้วก็อื่น ๆ
 
แล้ก็แวะโตคิว ซื้อเสื้อกับกางเกงให้คุณซู
 
ซื้อเสร็จก็กลับมาเก็บที่โรงแรม
 
ของที่ซื้อมารวม ๆ ประมาณนี้
 
 
 
 
 
 
 
 
 
ซื้อดาวนี่ของไทยมาด้วย เพราะของที่นี่ไม่ค่อยแรงเท่าไหร่
 
 
 
จากนั้นก็ไปเดินที่สวนลุมพินี เพราะคุณซูยังไม่ล้มเลิกตามหาต้นชะอม สุดท้ายก็ไม่เจอ
 
 
 
 
จากสวนลุมก็ไปจามจุรีสแควร์ ไปซื้อของที่ร้านยา ร้านนี้ถูกเหมือนกัน  แล้วก็กินข้าวที่ฟูจิ
 
 
 
 
 
พอกินเสร็จก็แวะไปทำบุญที่วัดหัวลำโพง คนเยอะมาก เลยไม่ได้ไหว้ด้วยธูป เผาแต่กระดาษ
 
แล้วก็กลับไปที่สีลมต่อ คุณซูอยากนวดไทยมาก ๆ เพราะก่อนมาก็ปวดหลัง ปวดขา
คุณซูเลยพาไปร้านที่อยู่ถนนสุรวงศ์ ร้านอยู่ชั้น 2  คุณซูเลือกนวดแผนไทย 2 ชั่วโมง ส่วนเราก็เลือกนวดเท้า 2 ชั่วโมง รู้สึกดีมากเลย เผลอหลับไปด้วย
 
นวดแผนไทย 2 ชั่วโมง 700 บาท
นวดเท้า 2 ชั่วโมง 810 บาท
 
กลับจากนวดก็ไปซุปเปอร์แถวช่องนนทรี แต่ปิดไปแล้ว กะว่าจะไปซื้อต้มโคล้งสำเร็จรูปซะหน่อย อดเลย
 
กลับมาก็จัดของเตรียมตัวเดินทาง แล้วก็มากินผลไม้ที่ซื้อมาล็อตหลัง จะมีสัปปะรด แล้วก็มังคุดอีก 8 ลูก สัปปะรดอร่อยมากเป็นพันธ์ลูกเล็ก  มังคุดก็หวานอร่อย
 
 
เหลือแต่เปลือก...
 
 
 
ต้องออกจากโรงแรมประมาณตี 3 เราก็ต้องตื่นตี 2 มาอาบน้ำอะไรก่อน
 
วันนี้หลับปุ๋ยเลย เพราะได้ไปนวดมา สบาย
 
 
 
 

วันอาทิตย์ที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

21 ก.ค. 56 แพลนวันที่สี่ของการกลับไทย (อยู่ที่ชะอำกับครอบครัว)

คุณซูตื่นเช้ามาก เพราะอยากดูพระอาทิตย์ขึ้น แต่เราขอนอนต่อ เพราะตื่นไม่ไหวจริงๆ คุณซูเลยออกไปคนเดียว กลับเข้ามาอีกทีก็ไปอาบน้ำ แล้วก็ออกไปกินข้าวเช้าของที่นี่
คนเยอะมาก โต๊ะไม่พอ ก็ต้องรอสักพักนึง

 
จากนั้นก็กลับไปพักกันที่ห้อง เดินดูบริเวณรอบ ๆ
 
 
พอถึงเที่ยงก็เช็คเอ้าท์ออก แล้วก็เดินทางต่อ ไปกินข้าวกลางวันกันที่ร้าน เจ้เขียว (ถ้าจำชื่อไม่ผิดนะ) อยู่หัวหิน คนก็เยอะมาก (อีกตามเคย) แต่ร้านนี้โทรจองได้ เลยไม่ต้องรอคิวนาน
ตั้งแต่มื้อเย็นเมื่อวาน กับมื้อกลางวันวันนี้ คุณซูกินแต่ข้าวผัด เพราะเป็นคนไม่กินซีฟู๊ด แต่ครอบครัวเราทุกคน รวมตัวเราด้วยชอบซีฟู๊ดมาก คุณซูเลยเหงา ๆ หน่อย กินข้าวผัดหมูคนเดียว
พอกินเสร็จก็เดินทางกันต่อไปวัดห้วยมงคล ไปกราบหลวงปู่ทวด แล้วก็ไปลอดใต้ท้องช้าง ซื้อวัตถุมงคลมาบูชา
 
 
 
 
 
 
 
 
พอกราบหลวงปู่เรียบร้อยแล้วก็แวะซื้อของฝากที่ร้านกิมไล้ เราได้เป็นน้ำพริกมา เพราะอยู่ญี่ปุ่นไม่มีขายเลย
 
 
พอซื้อกันหมดแล้วก็ขับตรงเข้ากรุงเทพฯ เลย ไปเจอกันที่บ้านป๊าม้า
พอไปถึง เราก็วุ่น ๆ เลย เพราะต้องจัดของทั้งหมด ไปเช็คอินที่โรงแรมแถวสุรศักดิ์อีกครั้งหนึ่ง แล้ววันพรุ่งนี้คงไม่ได้มาเจอที่บ้านหล่ะ เพราะยังมีต้องซื้อของและอะไรต่อมิอะไร
เศร้าจัง เพราะไม่ได้เจอที่บ้านอีกพักนึง รู้สึกเหงา ๆ ด้วย ที่ว่าเดี๋ยวก็ต้องกลับญี่ปุ่นหล่ะ
แล้วม้าก็ให้ของมา สำหรับมากินที่ญี่ปุ่น ขอบคุณมาก ๆ เลย เพราะของพวกนี้ที่ญี่ปุ่นแพงมาก ๆ
ส่วน 2 กล่องนั้น ซื้อมาจากเกากลี เป็นโสม แต่ม้าไม่ยอมกิน เลยเอามาให้
 
 
 
 
แต่ก่อนจะไปโรงแรม ก็ต้องไปที่บ้านน้องชายก่อน เพราะของส่วนหนึ่งอยู่ที่บ้านนั้น กว่าจะถึงโรงแรมก็ปาเข้าไป 5 ทุ่ม เกือบ เที่ยงคืน วันนี้ก็หลับเป็นตายอีกหนึ่งวัน
 
วันนี้คุณซูเก็บเปลืองหอยที่ชะอำมาฝากด้วย
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 

วันเสาร์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

20 ก.ค. 56 แพลนวันที่สามของการกลับไทย (ไปชะอำกับครอบครัว)

วันนี้ตื่นมา มื้อเช้าที่บ้านน้องชายจะเป็นข้าวมันไก่ แล้วก็หมูสะเต๊ะ
ข้าวมันไก่ไม่ได้กินมานานมาก รสชาติยังอร่อยเหมือนเดิม

จัดข้าวของเสร็จ ก็ออกเดินทาง ออกจากบ้านประมาณ 11 โมง  ก่อนอื่นก็แวะไปบ้านน้องสาวก่อน
วันนี้รถติดมาก ๆ ประมาณเกือบ 2 ชั่วโมงได้กว่าจะถึง รถน้องชายนั่งได้ 7 คน แต่คนนั่งหลังสุด (ก็คือเรากับคุณซู) อาจจะแคบไปนิดนึง

พอไปถึงบ้านน้องสาว เรากับคุณซูก็ไปนั่งรถน้องสาว โอเคพร้อมหล่ะ ก็เดินทางไปชะอำกัน
ระหว่างทางก็ติดตามเคย ช่วงนี้เป็นช่วงหยุดยาวด้วยมั้ง ทุกคนเลยออกต่างจังหวัดกัน
แวะกินข้าวก่อนจะถึงชะอำ ก็บ่าย 3 โมงแล้ว ที่นั้นก็เป็นจุดนัดเจอกับครอบครัวของพี่ชาย พอกินอะไรกันเสร็จก็เดินทางต่อ ขับตาม ๆ กันไป กว่าจะถึงที่หมายก็เกือบจะ 6 โมงหล่ะ
วันนี้เรามาค้างกันที่ The Regent Chalet Cha-Am
ที่เลือกที่นี่เพราะน้องชายบอกว่าที่อื่น ๆ เต็มไปหมดแล้ว  ส่วนราคาเราก็ไม่รู้เท่าไหร่ เพราะน้องชายเป็นคนออกให้ จองไว้ทั้งหมด 5 ห้อง บรรยากาศในห้องสวยดี กว้างด้วย มีระเบียงด้วย แล้วก็โชคดีที่ทั้งแถวเป็นห้องของพวกเราทั้งหมดเลย (4ห้อง) อีก 1 ห้องของพี่ชายต้องแยกออกไปหน่อย แต่ไม่ไกลกันมาก แต่ก็เสียดายจัง ไม่งั้นคงเจี๊ยวจ้าวกว่านี้ เพราะคงมีเด็ก ๆ (ลูกของพี่ชาย) มาวิ่งเล่น


 
 
 
 
 
 
 
ทางเดินไปหาด และบรรยากาศรอบ ๆ
 
 
 
 
 
 
พอไปถึงที่พัก เด็ก ๆ ก็เล่นน้ำกัน สนุกกันใหญ่เลย พอถึงเวลา 19.30 ก็ไปกินข้าวข้างนอกกัน ขับออกไปก็ใช้เวลาเหมือนกัน  มื้อเย็นนี้มากินที่ร้าน ชมทะเล  คนเยอะมาก กว่าจะได้ที่นั่ง กว่าอาหารจะมา  พี่  ๆ น้อง ๆ เราก็เลยบอกว่า ถ้ากลับมาไทยครั้งต่อไป อย่าเลือกมาช่วงเทศกาลนะ (เราก็คิดว่าอย่างนั้นเหมือนกัน)
 
 
 
มื้อนี้คุณซูเป็นคนเลี้ยง 
ขากลับโรงแรม ขำมาก รถน้องชาย (นำทาง) แวะเข้าปั้ม ก็นึกว่าคงเติมน้ำมันมั้ง แวะเข้าแล้วก็ออกเลย งงกันมาก แวะเข้ามาทำไม แล้วก็ทำให้รถพี่ชาย รถน้องสาวแวะเข้า แล้วก็ออกเลยเหมือนกัน ที่แท้จะแวะ 7-11 นี่เอง แต่ปิด
 
ก็เลยแวะ 7-11 ที่อื่นแทน
 
 
วันนี้ก็เป็นอีกวันนึงที่หลับกันเป็นตายเหมือนกัน