วันนี้ไปโรงพยาบาลมีนัดตรวจครรภ์ครั้งที่ 6 (อายุครรภ์ 24 สัปดาห์กว่า ๆ)
ไปถึงโรงพยาบาล ก็ยื่นบัตรนัด บัตรคนไข้ สมุดสุขภาพแม่และเด็ก สมุดช่วยค่าตรวจ ไม่ได้ยื่นบัตรประกันสุขภาพเพราะยังไม่ใช่เดือนใหม่ของการมาตรวจ
แล้วก็ไปเก็บปัสสาวะ วัดความดัน จากนั้นพยาบาลก็เรียกเข้าห้องสำหรับเจาะเลือด ครั้งนี้เก็บไป 3 หลอด ซึ่งจะนำไปเช็คว่ามีเชื้อมะเร็งเม็ดเลือดขาวหรือไม่ เพราะสามารถติดได้ทางการให้นมแม่
นำไปเช็คว่าเลือดจางหรือไม่ และเช็คค่าน้ำตาลในเลือด
หลังจากนั้นก็ชั่งน้ำหนัก แล้วก็รอพบคุณหมอ คุณหมอมาเห็นน้ำหนัก ทำหน้าเครียดเลย เพราะน้ำหนักเราขึ้นจากก่อนท้องมา 8.5 กิโล ซึ่งเกณฑ์ของคุณหมอคือ 8-12 กิโล เพราะหลังจากนี้น้ำหนักก็จะยิ่งเพิ่มขึ้น คุณหมอเลยให้ควมคุมน้ำหนัก ลดปริมาณอาหารลง
หลังจากนั้นก็อัลตราซาวด์ดู เด็กตัวใหญ่ขึ้นมากเลย อาจจะเป็นเพราะน้ำหนักแม่ขึ้นเยอะด้วย เลยทำให้เด็กตัวใหญ่ ครั้งนี้คุณหมอจะให้ดูส่วนหัว เน้นให้ดูจมูก ปาก แล้วก็ให้ฟังเสียงหัวใจเต้น ทั้งหมดปกติ แข็งแรงดี แล้วคุณหมอก็บอกผลการตรวจเลือดไม่มีปัญหาเลือดจาง แอบเห็นตัวเลขอยู่ที่ 11 กว่า ๆ ส่วนผลของตัวอื่นยังไม่ออก แล้วก็แอบเห็นคุณหมอเขียน 800 กว่า ๆ น่าจะเป็นน้ำหนักของทารก
แล้วคุณหมอก็ถามว่ามีอะไรจะถามไหม เราก็บอกไปว่าช่วงนี้จะปวดหน่วง ๆบริเวณช่วงล่าง บริเวณก้น ทางด้านซ้าย คุณหมอก็เลยสันนิษฐานว่าน่าจะเป็นเรื่องของท้องผูก ให้ดูอาการ
แล้วก็นัดครั้งต่อไปอีก 2 อาทิตย์ คุณหมอพูดมาเลยว่าครั้งที่มาตรวจคราวหน้าไม่ควรขึ้นเกิน 1 กิโล เฮ้อ
ก่อนกลับคุณหมอให้ไปฟังพยาบาลพูดเรื่องของอาหาร แล้วก็รับคู่มือแนะนำเรื่องอาหารในตอนที่ตั้งครรภ์ และแฮนบุ๊คสำหรับการไปทานข้าวนอกบ้าน พยาบาลเขียนมาเลยว่า BMI ของเรา 21.0 น้ำหนักมาตรฐานจะอยู่ที่ 58.4 กิโล เพราะฉะนั้นปริมาณพลังงานที่จำเป็นต่อวันจะอยู่ที่ 1,700 Kcal
เราต้องควบคุมอาหารให้อยู่ในเกณฑ์นี้เหรอเนี่ย ><
ในคู่มือก็จะบอกมาว่าใน 1 วันควรจะทานอะไรบ้าง ปริมาณเท่าไหร่
บอกวิถีการทานอาหาร คือ
1. ทานอาหารครบ 3 มื้อ
2. เคี้ยวช้า ๆ ละเอียด ๆ
3. ก่อนนอน 2 ชั่วโมงไม่ให้ทานอะไร
4. ให้ออกกำลังกาย
5. อาหารที่ใช้น้ำมันเยอะ ให้ทานพอดี ๆ
6. ให้ระวังในการทานขนมขบเคี้ยว ของว่าง
7. ให้หันมาทานอาหารจำพวกที่ไม่มีแคลอรี่ อย่างเห็ด บุก สาหร่าย
8. ไม่ทานอาหารรสจัด
9. ไม่ใช้พวกน้ำปรุงรส ซอสในปริมาณที่เยอะ
ส่วน แฮนบุ๊คสำหรับการไปทานข้าวนอกบ้าน ก็จะเขียนประมาณว่า เมนูอาหารนี้ให้พลังงานกี่กิโลแคลอรี่ คงประมาณว่าให้เลือกทานที่ให้พลังงานไม่สูงมาก
ต้องควบคุมอาหาร น้ำหนักแล้วสิเรา
ค่าตรวจในวันนี้ 3,720 เยน
วันจันทร์ที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2557
ปลูกมะเขือเทศ
เราเป็นคนนึงที่ชอบทานมะเขือเทศมาก ๆ แต่ที่ญี่ปุ่นขายแพ็คนึง (มีประมาณ 12-15 ลูก) ประมาณ 200 เยน ทานไปแป๊ปเดียวหมดหล่ะ เลยกะจะลองปลูกเองดูว่าจะออกเยอะหรือเปล่า เมื่อปีที่แล้วก็ซื้อมะเขือเทศที่เป็นแบบเมล็ดมา โตออกดอกแล้วก็ออกลูกนะ แต่ว่าไม่ค่อยแข็งแรงเท่าไหร่ ออกลูกมานิดเดียวเอง ปีนี้คุณซูเลยลองใหม่ แต่คราวนี้ซื้อแบบที่เขาขายเป็นต้นมาแล้ว น่าจะโอเคกว่า
ขายต้นละ 265 เยน
แล้วก็มีซื้อต้นสีแดง กับ สีชมพูมา (กระถางแขวน 2 อันทางขวามือ) ไม่รู้เรียกว่าต้นอะไร เป็นต้นที่ทนมาก จากที่เคยปลูกเมื่อปีที่แล้วดอกแทบจะไม่ร่วงเลย
ขายต้นละ 75 เยน
ส่วนต้นสูง ๆ ดอกสีเหลือง ๆ เรียกว่าต้น Nanohana
แล้วก็ต้นซากุระ (กระถางที่มีหลอดเหลือง ๆ ปักอยู่) ที่เราเห็นตั้งแต่ปีที่แล้ว ปีนี้ออกดอกแล้ว (แต่ไม่เยอะ ) ^^
ขายต้นละ 265 เยน
แล้วก็มีซื้อต้นสีแดง กับ สีชมพูมา (กระถางแขวน 2 อันทางขวามือ) ไม่รู้เรียกว่าต้นอะไร เป็นต้นที่ทนมาก จากที่เคยปลูกเมื่อปีที่แล้วดอกแทบจะไม่ร่วงเลย
ขายต้นละ 75 เยน
ส่วนต้นสูง ๆ ดอกสีเหลือง ๆ เรียกว่าต้น Nanohana
แล้วก็ต้นซากุระ (กระถางที่มีหลอดเหลือง ๆ ปักอยู่) ที่เราเห็นตั้งแต่ปีที่แล้ว ปีนี้ออกดอกแล้ว (แต่ไม่เยอะ ) ^^
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)
-
ก่อนกลับไทยก็ต้องมีของติดไม้ติดมือกลับไปฝากที่บ้าน ญาติ แล้วก็เพื่อน ๆ ก็จะด้วยเรื่องงบที่ตั้งไว้ ของบางอย่างก็กะว่าจะแบ่งกระจาย ๆ กัน เร...
-
พอดีไปอ่านเจอในนิตยสารของญี่ปุ่น เกี่ยวกับเรื่อง สารอาหารของเด็กในการส่งเสริมสุขภาพกายและใจก็คือ "การนอนหลับ" น่าสนใจดี เลยลองแปลเ...
-
สวัสดีค่ะ อุณหภูมิวันนี้ 19/6 องศา ไม่หนาวมากเกินไป กำลังดี แล้วในวันนี้เราขอแนะนำแฟชั่นฤดูใบไม้ผลิของญี่ปุ่น (ตามนิตยสารที่เรามีอยู่) เห็...