วันเสาร์ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2557

ไปหาหมอเพราะผื่นขึ้นที่สะโพก

ก่อนหน้าที่จะถึงกำหนดนัดตรวจครั้งที่ 4 (จากครั้งที่ 3 มาครั้งที่ 4 การนัดตรวจก็จะนานขึ้นเป็น 4 สัปดาห์มาตรวจ)  เราเกิดคันแล้วก็มีผื่นขึ้นที่สะโพก ไปให้คุณหมอสูติดู (คุณหมอเดียวกับที่ตรวจครรภ์) เขาก็บอกว่าไม่เคยเจอ เพราะส่วนใหญ่จะคันแล้วก็มีผื่นบริเวณท้อง คุณหมอก็เลยบอกว่าอาจจะเป็นเพราะการไปเสียดสีกับผ้ามั้ง เลยให้ยาทามาทาดู
ซึ่งเราก็ไม่ได้ทาอ่ะ เพราะไม่ได้คันมาก  เราลองทาวาสลินที่เอามาจากเมืองไทยดู รู้สึกว่าดีขึ้น คงเพราะผิวแห้ง หรือไม่ก็คงไปเสียดสีกับกางเกงอย่างที่คุณหมอบอกจริงๆ



ค่าตรวจวันนี้ 620 เยน

วันอังคารที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2557

แนะนำเสื้อที่ใส่แล้วอุ่นขึ้น (นิดนึงก็ยังดี)

หน้าหนาวของที่ญี่ปุ่นปีนี้สุด ๆ จริงๆ หนาวมาก โดยเฉพาะอาทิตย์ที่แล้ว
วันก่อนไปทานข้าวกับเพื่อนของคุณซูมา เขาก็ถามเราว่าวันนี้ใส่มากี่ตัว
วันนั้นเราใส่ เสื้อกล้าม, เสื้อแขนยาว Heattech ที่ซื้อมาจากยูนิโคลที่ไทย, เสื้อแขนยาวคอเต่า Heattech ที่ซื้อมาจากยูนิโคลที่ไทย, เสื้อขนปุย ๆ ที่ซื้อมาจากยูนิโคลที่ไทย เราก็ไม่รู้เรียกว่าอะไรนะ
แล้วก็เสื้อโค้ทขนเป็ด ถ้าไม่นับรวมเสื้อโค้ท ก็ประมาณ 3 ชั้นที่เราใส่ ขนาดอยู่บ้านยังหนาวเลย เปิดฮีทเตอร์ก็แล้วก็ยังหนาว
เพื่อนคุณซูเลยแนะนำว่าให้ไปซื้อที่เขียนว่า  極暖 (ごくだん)(Heattech Extra Warm)  ของยูนิโคลมาใส่สิ  อุ่นขึ้นนะ
วันรุ่งขึ้นเรากับคุณซูเลยไปหาซื้อมาเลย
หลังจากที่ใส่ก็รู้สึกอุ่นขึ้นมานิดนึงเหมือนกันนะถ้าเปรียบเทียบกับ Heattech เฉย ๆ
ส่วนราคาก็จะแพงกว่า Heattech เฉย ๆ เท่านึง อยู่ที่ตัวละ 1,500 เยน
ร้านที่เราไปซื้อ ของผู้หญิงสีดำหมดแล้ว เหลือแต่สีเขียวเข้ม เอาก็เอา เพราะไม่ไหวหนาวจริง ๆ


คุณซูก็ซื้อด้วย ของผู้ชายยังมีสีดำ



วันอาทิตย์ที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2557

สมัครสมาชิกของศูนย์ที่คล้าย ๆ ศูนย์ค้าส่งแบบแม็คโครบ้านเรา

กะจะเขียนเรื่องนี้นานแล้ว แต่ลืมทุกทีเลย
เรื่องก็มีอยุ่ว่า เพื่อนคุณซูแนะนำให้ไปสมัครสมาชิกของศูนย์ที่คล้าย ๆ ศูนย์ค้าส่งแบบแม็คโครบ้านเรา
เพราะในนั้นของจะเยอะ แล้วก็ถูกกว่าข้างนอก ด้วยความที่ว่าถูกกว่า ก็เลยไปสมัครกับคุณซู
เราก็ไม่รู้ว่าแม็คโครเขาเก็บค่าสมาชิกหรือเปล่า แต่โดยทั่ว ๆ ไปเราจะคุ้นกับการสมัครสมาชิกฟรีมากกว่า ครั้งนี้ก็นึกว่าฟรีเหมือนกัน ต่อแถวเรียบร้อย ปรากฏว่าเสียค่าสมาชิกต่อปี ปีแรกจ่าย 4,200 เยน ปีต่อไปไม่รู้เท่าไหร่ ก็ต้องจ่ายอ่ะเนอะ มาถึงเค้าท์เตอร์แล้ว
ที่บัตรสมาชิกจะมีรูปเจ้าของบัตรติดไว้ด้วย ต้องยื่นทุกครั้งที่จะเข้าไปซื้อ  เจ้าของบัตรสามารถพาผู้ติดตามมาได้อีก 2 คน
พอทำบัตรเสร็จก็ลองสำรวจดูว่ามีของอะไรบ้าง ส่วนใหญ่จะเป็นของขายแบบเป็นแพ็ค ๆ หรือไม่ก็เป็นถุงใหญ่ ๆ สินค้าส่วนใหญ่จะเป็นของนำเข้า มีของญี่ปุ่นด้วย แต่รู้สึกจะน้อยกว่าของนำเข้า
แล้วตอนจะออกจากศูนย์ ก็ต้องยื่นใบเสร็จให้พนักงานเช็คดูด้วย คงกันการขโมยของมั้งนะ

เราก็กะว่าจะดูว่าปีนี้ใช้บริการมากน้อยแค่ไหน ถ้าน้อยมาก ๆ ปีต่อไปคงไม่ต่ออายุดีกว่า คิดว่าน่าจะไม่คุ้มกับค่าสมาชิก

ตัวอย่างของที่เราซื้อมา




มันฝรั่งถุงใหญ่มาก (เทียบกับถุงเถ้าแก่น้อย)




ผลไม้แปลกดีเลยซื้อมา เบบี้ กีวี  สามารถทานทั้งเปลือกได้ อร่อยดี ไม่ค่อยเปรี้ยวเท่าไหร่




วันจันทร์ที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2557

ตรวจครรภ์ครั้งที่ 3 ที่โรงพยาบาลญี่ปุ่น (อายุครรภ์ 12 สัปดาห์กว่า ๆ)

หลังจากตรวจครั้งที่ 2 คุณหมอก็นัดครั้งที่ 3 หลังจากนั้น 3 สัปดาห์ ก็เปิดปีใหม่แล้วก็กลับมาจากไทยพอดี  ครั้งนี้ที่ไปตรวจก็ยื่นสมุดสุขภาพแม่และเด็กแล้วก็สมุดช่วยเรื่องค่าตรวจไปด้วย
จะมีการให้ชั่งน้ำหนัก วัดความใหญ่ของท้อง
เครื่องที่ใช้ตรวจจะไม่เหมือนเดิมหละ เพราะจะเป็นการซาวด์ดูจากหน้าท้องเราหล่ะ
ภาพที่เห็นทางหน้าจอ เจ้าหนูดิ้นไปดิ้นมา แขนขาขยับไปมา หัวใจเต้นเร็ว แล้วก็ดังด้วย คุณหมอบอกว่าแข็งแรงดี ก็ค่อยโล่งอกหน่อย เพราะอย่างที่เคยบอกไปว่าเราก็กังวลเกี่ยวกับการขึ้นเครื่องบินอยู่เหมือนกัน 
แล้วช่วงหน้าหนาวนี้เราก็เหมือนจะเป็นหวัด ก็เลยบอกคุณหมอไปว่าเราเป็นหวัด คุณหมอก็ให้ยาแบบนี้มา เป็นยาจีน



แล้วในวันนี้ก็มีเก็บปัสสาวะ, วัดความดัน (เราไปวัดเองกับเครื่องที่ทางโรงพยาบาลตั้งไว้) , เจาะเก็บเลือดทั้งหมด 5 หลอด เหมือนจะตรวจว่าแม่มีกรุ๊ปเลือดอะไร, หาเชื้อ HIV, หาว่ามีภูมิคุ้มกันหัดเยอรมันหรือเปล่า, แล้วก็อะไรอีกเราก็ไม่ค่อยรู้รายละเอียดหละ

ค่าตรวจในครั้งนี้รวมค่ายา 3,830 เยน

อาการในช่วงนี้ก่อนจะตรวจครั้งที่ 4
-รอบ ๆ บริเวณปากกับจมูก จะแดง ๆ ไม่รุ้ว่าเป็นเพราะอากาศแห้ง หรือว่าเป็นที่โฮรโมนเปลี่ยน
-เวลาสั่งน้ำมูก จะมีเลือดปนออกมาด้วย ก็ไม่รู้ว่าเป็นที่อากาศแห้งหรือเปล่า
-จะมีเรื่องของกรดไหลย้อน แต่อาการไม่มาก แค่รู้สึกว่าไหลมาถึงที่บริเวณคอ
-มีปวดท้องจิ๊ด ๆ คงเป็นเพราะมดลูกกำลังขยายมั้ง
-มีผื่นแดง ๆ ขึ้นที่บริเวณสะโพก ยิ่งตอนหลังจากที่แช่น้ำร้อนใหม่ ๆ
-อาการไม่อยากอาหาร เริ่มดีขึ้น สามารถทานได้มากขึ้น


วันพุธที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2557

เริ่มกลับมาเขียนบล็อก พร้อมแนะนำวิตามินที่ทานก่อนตั้งท้อง

หลังจากที่หายจากการเขียนบล็อกไปเกือบ 2 เดือน
วันนี้ก็เริ่มหายขี้เกียจหล่ะ
ตอนแรกที่เริ่มขี้เกียจ ๆ ก็นึกว่า คงเหนื่อยจากที่ออกไปข้างนอกทุกวัน (พาที่บ้านที่มาเที่ยวญี่ปุ่นไปเที่ยว) ไป ๆ มา ๆ เริ่มขี้เกียจหนักขึ้น ช่วงนั้น (เดือน พ.ย. 56) รู้สึกล้า ๆ ไม่อยากทำอะไรเลย อยากนอนอย่างเดียว ซึ่งจริง ๆ แล้วที่เป็นแบบนี้ส่วนหนึ่งก็คือ เรามีข่าวดีแล้ว เย้...

ก็ขอเริ่มเขียนอาการก่อนที่เราจะใช้ชุดทดสอบว่าตั้งท้องหรือเปล่า ก็จะมี
-ปวดท้องเหมือนประจำเดือนจะมา แต่ไม่มา
-ง่วงนอน ไม่อยากทำอะไร ไม่ค่อยอยากอาหาร ถ่ายมีเลือดปนออกมา ปวดหัวเหมือนเป็นหวัด กลางดึกลุกขึ้นมาเข้าห้องน้ำ
-แล้วช่วงนี้ก็จะรู้สึกเหม็น ๆ อยากจะอ๊วก (แต่ไม่ได้อ๊วกออกมา) อาการที่ไม่ค่อยอยากอาหารทำให้พอทานอาหารไปแล้วก็รู้สึกอึดอัดท้อง

ก่อนที่จะคุณซูจะพาเราไปโรงพยาบาล เราก็อยากจะเขียนถึงยา แล้วก็วิตามินที่เราคิดว่าน่าจะช่วยในเรื่องของการมีน้องนะ เก็บไว้เป็นข้อมูลนิดนึง

ตั้งแต่เดือน พ.ค. 56 เรากับคุณซูก็ทานวิตามิน (จริง ๆ ก็ทานกันก่อนหน้านั้นแล้วหล่ะ แต่ที่ทานกันจริงจังก็จะมี)

1.




ช่วงหลังเปลี่ยนมาเป็นซองนี้เน้น 葉酸 (โฟเลต) อย่างเดียว
2.






3.





4.




5. ตัว コラーゲン (คอลลาเจน)  นี้ช่วงหลัง ๆ ก็ไม่ได้ทานแล้ว





6. น้ำมันปลา




7. น้ำมันพริมโรส




8. โคคิวเทน

 


ส่วนของคุณซูก็มีทานเพิ่ม マカ

9.







ส่วนเรา โดยส่วนตัวคิดว่าเป็นคนเลือดน้อย เลยเสริมตัวนี้เข้าไปอีกในช่วงหลัง ๆ

10.






สรุปก็คือช่วงแรก ๆ เรากับคุณซูจะทานหมายเลข 1, 4, 5, 6, 7
พอเริ่มครึ่งปีหลัง  (ปี 56) เราก็ทานหมายเลข 2,4, 6-8 ประมาณเดือน ก.ย. ก็เสริมหมายเลข 10
ส่วนของคุณซูก็ทานหมายเลข 2 - 4, 6-8  + หมายเลข 9


แล้วก็มาทานยาจีนเพิ่มตั้งแต่วันที่ 24 ต.ค.  - 9 พ.ย.  56 ที่หยุดไปเพราะเริ่มไม่แน่ใจว่าจะมีน้องหรือเปล่าก็เลยหยุดไปก่อน แล้วก็มีจริงๆ ด้วย หน้าตาตัวยาเป็นแบบนี้นะคะ ตัวยานี้จะช่วยเรื่องทำให้ประจำเดือนมาปกติ ให้โฮโมนสมดุล



พอมาเขียน ๆ รู้สึกตัวเองทานเยอะเหมือนกันเนอะ จะตามอย่างหรือไม่ตามอย่างก็ได้นะคะ