ผิวเสื่อมเกิดจาก 2 สาเหตุหลัก คือสิ่งแวดล้อม เช่นแสงแดด มลพิษและเสื่อมตามวัย หรือผลจากการเปลี่ยนแปลงภายในร่างกาย ซึ่งมีการศึกษาพบว่า ผิวที่เหี่ยวย่นมีความสัมพันธ์โดยตรงกับการลดลงของปริมาณคอลลาเจน กล่าวคือ เมื่ออายุ 30 ปี การสร้างคอลลาเจนในผิวจะลดลงปีละ 1% พออายุ 45-50 ปี ร่่างกายก็จะหยุดการสร้างคอลลาเจน จึงสังเกตว่าผู้ที่วัยล่วงเลยเข้าเลข 3 ผิวที่เคยเต่งตึงก็จะเริ่มปรากฏริ้วรอยให้เห็น
ไม่ว่าจะเป็นวัยรุ่น วัยทำงานหรือวัยไหน ๆ การดูแลผิวพรรณถือว่าสำคัญเป็นอันดับต้น ๆ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะเห็นผู้หญิงสมัยนี้่ห่วงแหนผิวพรรณและพยายามสรรหาเคล็ดลับต่าง ๆ เพื่อปกป้องริ้วรอยที่จะเกิดขึ้นก่อนวัย
20 วัยสาวสดใส
วัยรุ่นเป็นวัยที่ผิวพรรณจะสดใสเปล่งปลั่งมากที่สุด แต่อาจมีปัญหาผิวหน้ามันหรือสิว เนื่องจากระดับฮอร์โมนในร่างกายเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะช่วงก่อนหรือหลังการมีประจำเดือน จึงควรให้ความสำคัญกับการทำความสะอาดผิวให้หมดจด โดยเฉพาะคนที่แต่งหน้า ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่เหมาะกับสภาพผิวของตัวเอง ที่สำคัญต้องไม่บีบหรือแกะสิว เพราะอาจเกิดการอักเสบ ติดเชื้อและเกิดแผลเป็น นอกจากนี้ควรลดอาหารหวานจัด มันจัด อาหารหมักดอง เป็นต้น
ดูดีได้ในวัย 30
เมื่อย่างเข้าเลข 3 ผิวหนังจะเริ่มขาดความชุ่มชื้น ไม่เปล่งปลั่งสดใสเหมือนเดิม รูขุมขนกว้างขึ้น สีผิวเริ่มไม่สม่ำเสมอ ผิวจึงต้องการดูแลมากขึ้น เพราะการผลัดเซลล์ตามธรรมชาติไม่รวดเร็วเหมือนเมื่อวัย 20 ต้น ๆ เมื่อไม่มีการผลัดเซลล์ใหม่ เซลล์ที่เสื่อมสภาพจะห่อหุ้มผิวเราไว้ ผิวหน้าก็จะดูหมอง ๆ ไม่สดใส ไม่เรียบเนียน และจะเริ่มมีปัญหาเรื่องริ้วรอย จุดด่างดำ และรอยกระที่เพิ่มมากขึ้น สำหรับผู้ที่ต้องนั่งทำงานในห้องแอร์ หรือนั่งหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นประจำทุกวัน ขอแนะนำให้ดื่มน้ำมาก ๆ ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ซึ่งเป็นการทำร้ายผิวให้ดูแก่ก่อนวัย รวมถึงการทำใจไม่ให้เครียดหรือหน้านิ่วคิ้วขมวด เพราะจะทำให้เกิดริ้วรอยได้ง่าย
เลิศหรูสไตล์วัย 40
เมื่อเข้าสู่วัย 40 ต่อมสร้างน้ำมันใต้ผิวหนังจะลดการทำงานลง จึงทำให้เกิดริ้วรอยรอบปากและดวงตา เนื่องจากไขมันหล่อเลี้ยงใต้ชั้นผิวหนังสูญเสียความยืดหยุ่นลง ผิวจึงไม่อิ่มเอิบ และเกิดริ้วรอยหรือจุดบกพร่องชัดเจนมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ผู้หญิงช่วงอายุนี้เริ่มเข้าสู่วัยทอง ทำให้ขาดฮอร์โมนเอสโตรเจนส่งผลทำให้ผิวบาง แห้งและแพ้ง่ายมากยิ่งขึ้น ผิวจึงต้องการการปกป้องจากแสงแดดและมลภาวะมากขึ้น หากถ้าคุณทาครีมกันแดดปกป้องผิวทุกวันตั้งแต่เพิ่งเข้าวัยรุ่นสภาพผิวจะยังคงนุ่มนวลไม่หยาบกร้านและดูอ่อนเยาว์กว่าผู้ที่ไม่เคยปกป้องผิวด้วยวิธีใด ๆ
วัย 50+ สวยสมวัย
ส่วนใหญ่จะเข้าสู่วัยทองซึ่งเป็นช่วงเวลาที่หมดประจำเดือนแล้ว ร่างกายจะสร้างคอลลาเจนและองค์ประกอบสำคัญอื่น ๆ ที่เป็นโครงสร้างผิวได้น้อยลง ผิวจึงหย่อนคล้อย แห้งกร้าน หมองคล้ำ ริ้วรอยเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว หรือริ้วรอยตื่น ๆ ที่มีอยู่แล้วก็จะยิ่งลึกและมองเห็นชัดยิ่งขึ้น ยิ่งถ้าสูบบุหรี่ ดื่มเหล้า ตากแดดบ่อย ๆ ด้วยแล้ว ก็ยิ่งทำให้ผิวเสื่อมสภาพเร็ว และเกิดฝ้า กระ มากขึ้นด้วย ในบางรายที่ชอบแช่น้ำอุ่น จะยิ่งทำให้ผิวยิ่งแห้งมากขึ้น และอาจเกิดอาการคันตามมา
"จากผลการศึกษาวิจัยพบว่า การรรับประทานคอลลาเจนที่สกัดจากปลาทะเลอย่างต่อเนื่อง จะช่วยให้ผิวหนังมีความยืดหยุ่นดีขึ้น ชุ่มชื้นและเรียบเนียนขึ้น อีกทั้งยังช่วยทำให้ริ้วรอยและความหยาบกระด้างของผิวลดลง"
สวยสดใสด้วยการใช้ชีวิตสมดุล
แม้วัยจะเป็นตัวกำหนดสภาพผิวพรรณโดยธรรมชาติ แต่ถ้ารู้จักดูแลสุขภาพโดยเฉพาะเรื่อง "อาหาร" เพราะผิวก็ต้องการอาหารในการบำรุง ซ่อมแซมและฟื้นฟู เหมือนกับอวัยวะส่วนอื่น ๆ เช่นกัน และอาหารที่ดีต่อผิวก็คือ ผักผลไม้ที่อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น วิตามินเอ ซี และอี ที่จะช่วยปกป้องผิวจากการทำลายของอนุมูลอิสระ และชะลอการเสื่อมของผิว และจากผลการศึกษาวิจัยพบว่า การรับประทานคอลลาเจนที่สกัดจากปลาทะเลอย่างต่อเนื่อง จะช่วยให้ผิวหนังมีความยืดหยุ่น ดีขึ้น ชุ่มชื้นและเรียบเนียนขึ้น อีกทั้งยังช่วยทำให้ริ้วรอยและความหยาบกระด้างของผิวลดลง ขณะเดียวกันควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอและพักผ่อนอย่างเพียงพอ ทำจิตใจให้เบิกบานแจ่มใส ไม่เครียด ดื่มน้ำสะอาดอย่างน้อยวันละ 8-10 แก้ว พร้อมทั้งหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ จากภายนอกที่คอยทำลายผิว ไม่ว่าจะเป็นแสงแดด ฝุ่นละออง บุหรี่และควันพิษจากท่อไอเสีย รวมถึงหลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้งในช่วงเวลา 10.00-16.00 น. ซึ่งเป็นช่วงที่มีปริมาณรังสียูวีสูงที่สุด แต่หากจำเป็นก็ควรกางร่ม หรือสวมหมวกปีกกว้าง ใส่เสื้อแขนยาว และอย่าลืมทาครีมกันแดดเป็นประจำ
เพียงเท่านี้ คุณก็จะมีผิวพรรณที่อ่อนเยาว์ สวยสดใส และมีสุขภาพดีไม่แพ้ใครค่ะ
ขอบคุณข้อมูลจากนิตยสาร BRAND'S
และรูปภาพต่าง ๆ จาก Google นะคะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น