ไปอ่านเจอนิตยสารเล่มนึงของญี่ปุ่นที่รวบรวมเกี่ยวกับช่วงตั้งครรภ์แรก ๆ ว่าเรื่องไหนทำได้ เรื่องไหนทำไม่ได้
ในนิตยสารก็จะแบ่งเป็นหัวข้อ ๆ ซึ่งหัวข้อที่เราจะขออัพก่อนก็จะมี บุหรี่ เหล้า, ของกิน, เครื่องดื่ม
โดยขอแสดงเป็นเครื่องหมาย
○ ทำได้ OK
△ ทำได้แต่ให้ระมัดระวังในเรื่องของปริมาณ ฯลฯ
× ทำไม่ได้ NG
-บุหรี่ เหล้า :
1. บุหรี่ ×
2. เหล้า ×
3. เหล้าที่ใช้ในการทำอาหาร △
4. เบียร์ แอลกอฮอล์ 0.0 % △ แต่ระวังเรื่องของน้ำตาล
-ของกิน :
1. ปลาดิบ (Sashimi, Sushi) △ ทานได้แต่ให้ระวังเรื่องปริมาณ เพราะอย่าง Maguro อาจจะมีพวกสารปรอทอยู่ และปลาอื่น ๆ ถ้ายังดิบ ๆ อยู่อาจจะมีแบคทีเรียซึ่งเป็นสาเหตุทำให้เกิดอาการอาหารเป็นพิษได้ เพราะฉะนั้นให้ระวังในเรื่องของปริมาณที่ทาน
2. ปลาไหล △ เนื่องจากมีวิตามิน A รวมอยู่ ในช่วงตั้งครรภ์แรก ๆ ให้ระวังเป็นพิเศษ ใน 1 วันกำหนดทานที่ประมาณ 40-50 กรัม
3. หอย ○ แต่ทางที่ดีควรทานที่ผ่านการปรุงให้สุกแล้วจะดีที่สุด
4. ตับ △ เนื่องจากมีวิตามิน A รวมอยู่ ในช่วงตั้งครรภ์แรก ๆ ให้ระวังเป็นพิเศษ ตับหมู ตับไก่ใน 1 วันกำหนดทานที่ประมาณ 4 กรัม ส่วนตับวัวใน 1 วันกำหนดทานที่ประมาณ 50 กรัม
5. เนื้อม้าดิบ แฮมดิบ △ ทานเป็นบางครั้งได้ แต่ควรที่จะปรุงให้สุกจะดีที่สุด และเนื่องจากมีวิตามิน A รวมอยู่ ในช่วงตั้งครรภ์แรก ๆ ให้ระวังเป็นพิเศษใน 1 วัน วันกำหนดทานที่ประมาณ 50 กรัม
6. เนย มาการีน ○ แต่เนื่องจากมีแคลอรีสูง ไม่ควรที่จะทานเยอะ
7. ไส้กรอก แฮม อาหารแช่แข็ง บะหมี่สำเร็จรูป △เนื่องจากมีสัดส่วนของเกลือในอาหารเยอะ ไม่ควรทานติดต่อกัน
8. ไข่ดิบของที่ญี่ปุ่น ○ เนื่องจากมีการควบคุมเรื่องของอนามัย ถ้าเป็นไข่ดิบสด ๆ ก็คงไม่มีปัญหาเรื่องอาหารเป็นพิษ
9. อาหารที่ใช้เครื่องปรุงประเภทพริกหรือกิมจิ △ ถ้าทานในปริมาณที่เคยทานมาก่อนก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่ถ้าทานในปริมาณมาก ๆ จะทำให้กระเพาะอักเสบและริดสีดวงทวารเพราะฉะนั้นไม่ควรทานในปริมาณที่มาก
10. ช็อคโกแลต, โกโก้ ○ ถ้าระวังในเรื่องของน้ำตาลอยู่แล้วก็สามารถทานได้ ถึงจะมีสารคาเฟอีนรวมอยู่ด้วย ถ้าทานในปริมาณที่ปกติก็ไม่มีปัญหาอะไร
-เครื่องดื่ม :
1. เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เช่น ชา กาแฟ △ ดื่มได้แต่ให้จำกัดที่ปริมาณ ใน 1 วันควรดื่มที่ประมาณ 1 ถ้วย
2. น้ำอัดลม △ ดื่มได้ แต่เนื่องจากมีน้ำตาลเยอะ ให้จำกัดปริมาณ
3. ชาสมุนไพร × แต่ถ้าระบุว่าคนท้องก็สามารถดื่มได้ก็ให้เลือกที่ระบุว่าสามารถดื่มได้จะดีกว่า
ปล. บางเรื่องถึงเขาจะเขียนว่าได้แต่ถ้าเรายังกังวลอยู่เราก็เลี่ยงเหมือนกันเพื่อความสบายใจ ก็ถือเป็นข้อมูลแล้วกันนะคะ
ส่วนหัวข้ออื่น ๆ จะทยอยอัพน้า
วันพฤหัสบดีที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2557
วันพุธที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2557
ตรวจครรภ์ครั้งที่ 10 ที่โรงพยาบาลญี่ปุ่น (อายุครรภ์ 33 สัปดาห์)
วันนี้ไปโรงพยาบาลมีนัดตรวจครรภ์ครั้งที่ 10 (อายุครรภ์ 33 สัปดาห์) ครั้งนี้คุณซูก็ไม่ได้ไปด้วยเพราะติดงาน ไปถึงโรงพยาบาลก็ยื่นบัตรนัด บัตรคนไข้ สมุดสุขภาพแม่และเด็ก สมุดช่วยค่าตรวจ บัตรประกันสุขภาพ จากนั้นก็ไปวัดความดัน แล้วก็ไปเก็บปัสสาวะ ความดันที่วัดได้อยู่ที่ 101/62 ลดลงจากครั้งที่แล้ว จากนั้นก็นั่งรอเรียก พอเจ้าหน้าที่เรียกแล้วก็เข้าห้องตรวจชั่งน้ำหนักอยู่ที่ 68.5 (ครั้งที่แล้ว 67.1) เจอคุณหมอพูดเลยว่าน้ำหนักขึ้นเยอะ หลังจากนี้ให้ควบคุมไม่ให้เพิ่มขึ้นเกิน 2-3 กิโล แล้วคุณหมอก็พูดว่าท้องคงหนักน่าดู คงเห็นท้องเราใหญ่มั้งนะ เราก็สังเกตผู้หญิงญี่ปุ่นที่ท้องส่วนใหญ่ท้องจะเล็ก ๆ กันแหละ อย่างเวลาเราเดิน ๆ ข้างนอกก็มีคนมองมาเหมือนกัน ไม่รู้มองที่ว่าท้องเราใหญ่ หรือว่ามองเพราะอย่างอื่น แต่ก็ช่างเหอะเนอะ
จากนั้นคุณหมอวัดช่วงท้องให้พยาบาลจดที่สมุด แล้วก็จับที่ขาเราแล้วก็พูดว่า Puramai (ปกติจะพูดว่า Mukumi nashi = ขาไม่บวม) ก็แสดงว่าคงมีอาการบวม แล้วก็มาซาวด์ดูหน้าจอ ครั้งนี้คุณหมอก็ให้ดูส่วนหัว วัดความกว้าง ยาว ให้ดูช่วงท้อง ดูช่วงขา ทุกอย่างปกติดี ไม่มีปัญหาอะไร แล้วก็ให้ดูหัวใจเต้น ฟังเสียงหัวใจเต้น น้ำหนักของเจ้าหนูในวันนี้อยู่ที่ 2,100 กรัม คุณหมอบอกว่าเป็นไปตามเกณฑ์ แต่ให้คุณแม่คุมน้ำหนัก เพราะถ้าน้ำหนักเกิน 15 กิโลไปแล้วจะยิ่งทำให้คลอดยากขึ้น ก็เป็นอันเสร็จการตรวจซาวด์ในครั้งนี้
ก็มาพูดคุยกับคุณหมอ สิ่งที่เราถามคุณหมอในครั้งนี้ก็จะเกี่ยวกับเรื่องการติดเชื้อ GBS ที่คุณหมอแจ้งผลเมื่อครั้งที่แล้ว คำถามที่เราถามก็คือหลังจากทานยาไปแล้วตรวจครั้งต่อไปไม่พบเชื้อ แต่ว่าจะมีความเป็นไปได้ไหมที่ตอนคลอดเชื้อจะกลับมา ซึ่งคำตอบของคุณหมอก็คือถ้าทานยาแล้วเชื้อหายไปก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่ว่าถ้ายาก็ช่วยไม่ได้ ยังมีเชื้ออยู่ ตอนคลอดก็จะทำการให้ยาปฏิชีวนะทางเส้นเลือดเพื่อเป็นการเพิ่มภูมิให้กับทารก ซึ่งคุณหมอบอกว่าเท่าที่ผ่านมาที่โรงพยาบาลก็ไม่มีปัญหาอะไร แล้วหลังจากคลอดแล้วก็จะทำการตรวจเลือดโดยตรวจจากสะดือของทารก ก็คงเป็นขั้นตอนการตรวจของโรงพยาบาลอ่ะเนอะ ฟังแบบนี้แล้วค่อยสบายใจหน่อย ส่วนเรื่องที่ต้องระวังตอนนี้ก็คือเรื่องน้ำหนัก (อีกแล้ว) เพียงเรื่องเดียว
ก็เป็นอันเสร็จการตรวจในครั้งนี้ นัดครั้งต่อไปอีก 2 อาทิตย์
ในตอนที่จ่ายเงินค่าตรวจ เราก็จองคอร์สอบรมสำหรับของทั้งพ่อและแม่ (3 ครั้งแรกจะแค่แม่อย่างเดียว) เนื่อหาของคอร์สสำหรับพ่อและแม่ก็จะเกี่ยวกับการที่คุณพ่อเข้าไปในห้องคลอดด้วย และก็จะให้เดินดู ๆ ห้องคนไข้ ซึ่งวันที่อบรมคุณพ่อก็ต้องมาด้วยกัน
ค่าตรวจในวันนี้ 1,870 เยน
พอกลับมาที่บ้านก็มาดูสมุดสุขภาพแม่และเด็ก ครั้งนี้อีกแล้วที่ช่อง 浮腫 (อาการบวม) ผลจากการตรวจปัสสาวะ พยาบาลวงที่เครื่องหมาย - และ + ปกติจะแค่เครื่องหมาย - สงสัยครั้งนี้คงบวมนิดหน่อยมั้งนะ เพราะก่อนหน้านี้ ตื่นมาตอนเช้าเหมือนจะเป็นตะคริวที่ขา พอเริ่มรู้สึกเจ็บ ๆ เราก็พยายามยกขาสูงขึ้นนิดนึง อาการก็หายไป
ส่วนอาการอื่น ๆ โดยรวมในช่วงนี้ :
- เริ่มเข้าห้องน้ำบ่อยขึ้น กลางคืนก็ตื่นขึ้นมาเข้าห้องน้ำบ่อยกว่าช่วงไตรมาสที่ 2 จะคล้าย ๆ ตอนตั้งท้องใหม่ ๆ เข้าห้องน้ำถี่เชียว
- การดิ้นของเจ้าหนูจะถี่ขึ้น โดยเฉพาะตอนเย็น - กลางคืน มีปูด ๆ ขึ้นมาบางทีก็ด้านซ้ายบ้างด้านขวาบ้าง แต่ยังไม่เห็นเป็นรูปมือ หรือเท้า
- ง่วงนอนมากขึ้น เหนื่อยง่ายขึ้น หัวใจทำงานหนักขึ้นมีปวดจิ๊ด ๆ เหมือนหายใจไม่ทันตอนที่เราออกกำลังกาย อย่างขึ้นลงบันได ก็เหนื่อยแล้ว
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)
-
ก่อนกลับไทยก็ต้องมีของติดไม้ติดมือกลับไปฝากที่บ้าน ญาติ แล้วก็เพื่อน ๆ ก็จะด้วยเรื่องงบที่ตั้งไว้ ของบางอย่างก็กะว่าจะแบ่งกระจาย ๆ กัน เร...
-
พอดีไปอ่านเจอในนิตยสารของญี่ปุ่น เกี่ยวกับเรื่อง สารอาหารของเด็กในการส่งเสริมสุขภาพกายและใจก็คือ "การนอนหลับ" น่าสนใจดี เลยลองแปลเ...
-
สวัสดีค่ะ อุณหภูมิวันนี้ 19/6 องศา ไม่หนาวมากเกินไป กำลังดี แล้วในวันนี้เราขอแนะนำแฟชั่นฤดูใบไม้ผลิของญี่ปุ่น (ตามนิตยสารที่เรามีอยู่) เห็...