วันอังคารที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2557

ค่าซักรีดเสื้อผ้าหน้าหนาว (ต่อ)

จากที่เคยเขียนเรื่องค่าซักรีดเสื้อผ้าหน้าฤดูใบไม้ผลิ หรือไบไม้ร่วง ที่ส่งร้านซักรีดไปเมื่อปีที่แล้ว (ตามลิ้งค์ด้านล่าง)


http://jipathajapan.blogspot.jp/2013/09/blog-post.html


วันนี้ก็ขอเพิ่มเติมในส่วนของเสื้อผ้าหน้าหนาวที่ตอนนี้หมดฤดูไปแล้ว ก็ต้องซักแล้วก็เก็บสำหรับใช้ในฤดูหนาวครั้งต่อไป
อย่างที่เราส่งให้ร้านซักก็จะมี
- เสื้อขนเป็ด (ซื้อจากที่ไทย) ภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า 「ダウンハーフコート」 ราคาซักรีดอยู่ที่ 2,400 เยน (ยังไม่รวมภาษีผู้บริโภค)
-  เสื้อกันหนาวผ้าคล้าย ๆ ผ้านวม ภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า 「ジャンパ」ราคาซักรีดอยู่ที่ 800 เยน (ยังไม่รวมภาษีผู้บริโภค)
-  หมวกที่ติดมากับเสื้อกันหนาวผ้าคล้าย ๆ ผ้านวม ภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า 「フード」ราคาซักรีดอยู่ที่ 100 เยน (ยังไม่รวมภาษีผู้บริโภค)
-  ผ้าห่มขนปุย ๆ ผืนเท่ากับเตียง 3 ฟุต ในที่นี้ทางร้านจะเรียกว่า 「ベビー毛布」ราคาซักรีดอยู่ที่ 600 เยน (ยังไม่รวมภาษีผู้บริโภค)
-  ผ้าห่มขนปุย ๆ ผืนเท่ากับเตียงควีนไซส์ ในที่นี้ทางร้านจะเรียกว่า 「毛布ダブル」ราคาซักรีดอยู่ที่ 1,100 เยน (ยังไม่รวมภาษีผู้บริโภค)


สำหรับที่บ้านเราก็จะมีประมาณเท่านี้สำหรับเสื้อผ้า ผ้าห่มที่ใช้ตอนหน้าหนาว ที่ส่งให้กับทางร้าน
เสื้อผ้าพวกนี้ก็จะรอเก็บเข้าลิ้นชักอย่างเดียว ก็เลยไม่รีบเท่าไหร่ เราก็จะอาศัยรอโปรโมชั่นลด 50 % จากทางร้าน เพราะจะได้ประหยัดค่าใช้จ่ายได้นิดหน่อยก็ยังดี แต่เราก็ไม่รุ้เหมือนกันว่าร้านอื่นจะมีโปรฯ แบบนี้เหมือนกันหรือเปล่า  แต่การใช้โปรฯ ก็อาจจะใช้เวลาในการซักมากกว่าการไม่ได้ใช้โปรฯ
แต่เรารอได้เพราะอย่างที่บอกไม่ได้รีบใช้ อิอิ

























วันจันทร์ที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2557

ตรวจครรภ์ครั้งที่ 7 ที่โรงพยาบาลญี่ปุ่น (อายุครรภ์ 26 สัปดาห์กว่า ๆ)

วันนี้ไปโรงพยาบาลมีนัดตรวจครรภ์ครั้งที่ 7 (อายุครรภ์ 26 สัปดาห์กว่า ๆ)
ไปถึงโรงพยาบาล ก็ยื่นบัตรนัด บัตรคนไข้ สมุดสุขภาพแม่และเด็ก สมุดช่วยค่าตรวจ  ยื่นบัตรประกันสุขภาพ(ทางโรงพยาบาลใช้หรือเปล่าไม่รู้ แต่ยื่นไว้ก่อน)
แล้วก็ไปเก็บปัสสาวะ ยังไม่ทันที่จะไปวัดความดันเลย พยาบาลก็เรียกเข้าห้องตรวจแล้ว ครั้งนี้เร็วมาก ๆ
ชั่งน้ำหนักอยู่ที่ 65.1 กิโล (ครั้งที่แล้ว 64.5) ครั้งนี้ไม่โดนดุเรื่องน้ำหนัก เพียงแต่คุณหมอบอกให้คุมให้ได้แบบนี้ตลอด
จากที่ยังไม่ได้วัดความดัน พยาบาลเลยมาวัดเองเลย ปกติไม่มีปัญหาอะไร
แล้วคุณหมอก็แจ้งผลตรวจเลือดที่เก็บไปครั้งที่แล้วว่าไม่มีปัญหาอะไร (เช็คว่ามีเชื้อมะเร็งเม็ดเลือดขาวหรือไม่ เพราะสามารถติดได้ทางการให้นมแม่
นำไป เช็คว่าเลือดจางหรือไม่  และเช็คค่าน้ำตาลในเลือด)
แล้วก็อัลตราซาวด์ ที่คุณหมอดู ๆ จะมีดูขนาดของหัว ส่วนท้อง แขน ขา ปกติ ไม่มีปัญหาอะไร แต่คุณหมอจะทักว่าเด็กตัวใหญ่ไปหน่อย คงเพราะแม่สูงด้วยมั้ง แล้วก็บอกว่าให้แม่อย่าอ้วนเกินไป จากนั้นก็ให้ฟังเสียงหัวใจเต้น ปกติดี


จากนั้นก็มาคุยกับคุณหมอเรื่องว่าจะเลือกคลอดแบบไหน เพราะทางโรงพยาบาลมีแพลนมาให้เลือก แล้วก็ให้ส่งให้กับทางโรงพยาบาลตั้งแต่อายุครรภ์ที่ 28 -36
ในแพลนก็จะมี
1. คลอดแบบธรรมชาติมาก ๆ คือจะไม่ใช้ยาใด ๆ เลย
2. คลอดแบบธรรมชาติที่สามารถเลือกวันคลอดเองได้ แต่จะมีการใช้ยา ฉีดยาชา อะไรประมาณนี้
3. คลอดโดยที่ให้สามีเข้าห้องคลอดด้วย แต่ว่าถ้าเป็นช่วงตอนกลางคืน สามีจะเข้าไปด้วยไม่ได้
ซึ่งเราก็คิดไว้แล้วหล่ะว่าจะเลือกแพลนข้อที่ 1 และ 3
แต่เราก็กลัวเจ็บท้องนาน ก็เลยปรึกษาคุณหมอ คุณหมอก็บอกโรงพยาบาลนี้ส่วนใหญ่จะคลอดแบบข้อที่ 1 แต่ถ้าดู ๆ แล้วแต่กรณีว่าเจ็บท้องนานเกินไปก็ขึ้นอยู่กับคุณหมออาจจะเปลี่ยนเป็นแบบข้อที่ 2 คือใช้ยาช่วยได้ แต่ต้องให้สามีเซ็นชื่อรับรองการเปลี่ยนแปลงด้วย
คุณหมอก็บอกว่ายังไม่ต้องรีบส่งใบนี้ก็ได้ รอให้ 36 สัปดาห์ก็ได้ แต่พอ 36 สัปดาห์ไปแล้วควรที่จะออกกำลังกายให้บ่อยขึ้น


แล้วก็มาถามคุณหมอเรื่องสายตาที่มองไม่ค่อยชัดมากขึ้นเวลาอ่านหนังสือ คุณหมอก็บอกว่าถ้าเรามองได้แค่ระยะตรงอย่างเดียว โดยที่การมองเห็นด้านข้างซ้ายขวามีปัญหาแล้วหล่ะก็ไม่ดี  แต่ถ้ามองไม่ค่อยชัดมากขึ้นเวลาอ่านหนังสือคงไม่มีปัญหาอะไร


แล้วก็ถามคุณหมอเรื่องปวดสะโพก ท่าทางคนญี่ปุ่นคงไม่ค่อยมีปัญหาเท่าไหร่มั้ง เพราะพอบอกคุณหมอไป คุณหมอก็งงๆ เหมือนไม่ค่อยเคยเจอแล้วก็เลยบอกมาว่า สรีระระหว่างคนไทยกับญี่ปุ่นไม่เหมือนกัน อย่างเราตัวสูง กระดูกเชิงกรานก็จะใหญ่ เพราะฉะนั้นก็เลยขยาย ก็เลยทำให้ต้องรับน้ำหนักของท้องมากขึ้นก็เลยทำให้ปวด


ก็เป็นอันจบการตรวจเพียงแค่นี้ นัดครั้งต่อไปอีก 2 สัปดาห์
ค่าตรวจครั้งนี้ 2,020 เยน