วันพุธที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2557

ตรวจครรภ์ครั้งที่ 8 ที่โรงพยาบาลญี่ปุ่น (อายุครรภ์ 29 สัปดาห์)

วันนี้ไปโรงพยาบาลมีนัดตรวจครรภ์ครั้งที่ 8 (อายุครรภ์ 29 สัปดาห์)
ไปถึงโรงพยาบาล ก็ยื่นบัตรนัด บัตรคนไข้ สมุดสุขภาพแม่และเด็ก สมุดช่วยค่าตรวจ  ยื่นบัตรประกันสุขภาพ  จากนั้นก็ไปวัดความดัน แล้วก็ไปเก็บปัสสาวะ
ในครั้งนี้มีการเจาะเลือดด้วย เก็บไป 1 หลอด เพื่อเป็นการตรวจว่าโลหิตจางหรือไม่
หลังจากนั้นก็รอเรียกพบคุณหมอ มีการชั่งน้ำหนักก่อน  ชั่งน้ำหนักอยู่ที่ 66.5 กิโล (ครั้งที่แล้ว 65.1) ขึ้นมา 1.4 กิโล โดนคุณหมอสั่งให้ควบคุมอาหาร น้ำหนักอย่างจริงจังหล่ะ เพราะถ้าเป็นแบบนี้คุณหมอบอกว่าคงเกิน 15 กิโลแน่ ๆ
จากนั้นก็ซาวด์ที่ท้อง คุณหมอให้ดูที่ส่วนของหัว มีการคลิกลากจากด้านนึงไปด้านนึง ซึ่งคุณหมอก็บอกว่าขนาดของหัวปกติดี
จากนั้นก็มาคลิกที่ส่วนขาดูความยาวของขา คุณหมอก็บอกว่าเด็กอาจจะตัวใหญ่กว่าไซส์มาตรฐาน น้ำหนักจากที่เห็นที่จออยู่ที่ 1,368 กรัม
แล้วก็ให้ฟังเสียงหัวใจเต้น คุณหมอบอกว่าแข็งแรงดี ^0^
จากนั้นก็ให้ดูส่วนที่เป็นตา ปกติดี ซึ่งตอนนี้เด็กนอนหงายอยู่ คุณหมอก็ทักว่าชั้นไขมันของคุณแม่หนา อาจจะทำให้ดูได้ไม่ละเอียดเท่าไหร่ (เราเห็นก็ว่าหนาจริง ๆ อ่ะ)
พอซาวด์เสร็จ คุณหมอก็บอกผลการตรวจเลือด ความเข้มข้นของเลือดอยู่พอดีกับตัวเลขที่เซฟเลย คือ 11 เราก็เลยถามว่าถ้าทานวิตามินที่ช่วยเรื่องโลหิตจางของ Kobayashi (กล่องสีแดง) ทานร่วมกับวิตามินของ Pigeon (ตามรูปด้านล่าง) ได้หรือเปล่า คุณหมอบอกว่าทานของ Pigeon อย่างเดียวก็พอแล้ว แล้วทานอาหารที่มีธาตุเหล็ก (จริง ๆ คุณหมอคงอยากให้ทานอาหารที่มีธาตุเหล็กมากกว่าการทานพวกวิตามิน แต่เราดักถามไปก่อน)



จากนั้นคุณหมอก็ถามว่ามีอะไรที่อยากจะถามมั้ย เราก็เลยบอกคุณหมอว่า ปวดช่วงเอวด้านหลังทางด้านขวา เท่านั้นแหล่ะ คุณหมอทำหน้ายิ้มเจือน ๆ แล้วก็บอกว่าเพราะน้ำหนักเราเยอะ เลยเป็นสาเหตุนึง ให้คุมเรื่องอาหาร แล้วก็น้ำหนัก คุณซูก็บอกว่าทุกวันนี้เราก็เดินเยอะขึ้น คุณหมอก็บอกว่า การเดินสำหรับคนท้องอาจจะทำได้ไม่เต็มที่ อย่างดีก็ 30 นาทีหรือ 1 ชั่วโมงก็เหนื่อยไม่ไหวแล้ว เราคงต้องคุมอาหารอย่างจริงจัง ><

พอตรวจตรงนี้เสร็จ คุณหมอก็บอกว่ามีตรวจต่อ ให้ไปที่ห้องสำหรับตรวจภายใน เราก็ขึ้นที่นั่งที่เป็นเครื่องสำหรับตรวจภายใน ครั้งนี้จะเป็นการตรวจหนองในเทียม และก็การตรวจแบคทีเรียในตกขาว
การตรวจหนองในเทียม คุณหมอให้ดูมอนิเตอร์ด้วย แล้วก็ไม่ได้พูดอะไร เป็นอันจบการตรวจในวันนี้
นัดตรวจครั้งต่อไปอีก 2 อาทิตย์
ค่าตรวจในวันนี้ 4,770 เยน

อ้อ วันนี้นางพยาบาลถามเราด้วยว่า ตอนคลอดจะให้สามีเข้าไปด้วยมั้ย เราก็บอกต้องการให้เข้าค่ะ
แต่เงื่อนไขก็คือถ้าคลอดหลัง 2 ทุ่มไปแล้ว สามีจะเข้าไปด้วยไม่ได้ เพราะเป็นกฏของที่นี่
ก็ขอให้หนูคลอดในตอนกลางวันแล้วก็วันที่ป่ะป๊าหนูหยุดพอดีด้วยน้า ^^

พอกลับมาบ้านมาดูสมุดสุขภาพแม่และเด็ก ครั้งนี้ที่ช่อง 浮腫 (อาการบวม) จากการตรวจปัสสาวะ พยาบาลวงที่เครื่องหมาย - แล้วก็วงที่เครื่องหมาย + ซึ่งปกติที่ผ่านมาจะวงแค่ที่เครื่องหมาย -
เราก็เลยลองหาข้อมูลดู ถ้าเครื่องหมาย - อย่างเดียว ถือว่าปกติ
แต่ถ้าวง - + จะผิดปกติในเรื่องของการบวมเล็กน้อย คุณหมอไม่ได้ทักอะไร เพราะคุณหมอก็มีจับที่ขา แล้วก็บอกว่าไม่บวม ก็คงไม่มีปัญหามั้ง แต่ก็ต้องระวังเค็มไว้ก่อนอ่ะเนอะ










วันอาทิตย์ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2557

ไปงาน AEON THAI FAIR 2014

อิออนเขาจัดงานไทยแฟร์ ตั้งแต่วันที่ 25 - 27 เม.ย. 57 แต่ก่อนหน้านั้นไม่ค่อยได้มีโฆษณาเท่าไหร่ มาโฆษณาเอาใกล้ ๆ โชคดีที่คุณซูเจอประชาสัมพันธ์งานทางอินเตอร์เน็ท ก็เลยไปกันวันที่ 27 เม.ย.
ถ้าเทียบกับปีที่แล้ว ปีที่แล้วร้านค้าจะเยอะกว่า ดูน่าสนใจกว่า แต่ก็ถือว่าโชคยังดี ได้ไปทานอาหารไทย วันนี้ที่ทานก็มีไก่ย่าง (500 เยน) กับหมูย่าง (500 เยน)  แล้วก็ซื้อทุเรียนกลับมา (1,980 เยน)  คราวนี้คุณซูเป็นคนปอกเปลือก ใช้เวลาเร็วมาก คือคุณซูใช้พลังแงะ แรงเยอะจริง ๆ
คิดถึงรสชาติไทย ๆ จัง





วันศุกร์ที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2557

สมัคร Point Card ของที่ Toysrus & Akachan Honpo

ช่วงที่ผ่านมามีต้องซื้อของเกี่ยวกับเด็ก แล้วก็ของตัวเอง เลยสมัคร  Point Card ไว้ดีกว่า สะสมแต้มไปเรื่อย ๆ ที่ญี่ปุ่นก็ดีอย่างตรงที่ว่าพ้อยท์ที่เราได้สามารถใช้แทนเป็นเงินสดได้เลย 1 พ้อยท์ก็เท่ากับ 1 เยน จะต่างกับที่ไทยนิดหน่อย เพราะรู้สึกว่าพ้อยท์ของที่ไทยต้องกี่พ้อยท์ถึงจะเท่ากับ 1 บาท ก็จำไม่ค่อยได้แล้วหล่ะ จำได้แต่ว่าเคยใช้พ้อยท์ที่วัตสัน แล้วก็ชินกับของที่ญี่ปุ่น พอตอนจ่ายเงิน อ้าวเออลืมไปว่าที่นี่ไม่ใช่ญี่ปุ่น เลยต้องจ่ายเพิ่มไปเยอะพอสมควร

ที่ Toysrus, Akachan Honpo หรือที่อื่น ๆ ก็จะเป็นร้านที่ขายทั้งเสื้อผ้าเด็ก เสื้อผ้าสำหรับคนท้อง ของเล่น ฯ มีให้เลือกดูไม่เบื่อเลย เพราะของ ๆ เขาจะทำมาแบบกระจุกระจิก บางอย่างมีก็ดี แต่ไม่มีก็ไม่เป็นไร เพราะราคาก็ค่อนข้างพอสมควรเหมือนกันนะของเด็ก ๆ เนี่ย เลยแปะลิ้งค์ให้ดูเผื่อสนใจกัน

ของที่ Toysrus  =>     http://www.toysrus.co.jp/top/CSfTop.jsp

ของที่ Akachan Honpo  =>     http://www.akachan.jp/


พอเราสมัครของ Toysrus  & Akachan Honpo ไปแล้วก็จะมีของแถมมาให้ด้วย ส่วนใหญ่ก็จะเป็นพวกผ้าอ้อมสำเร็จรูป นมผงให้ได้เอามาลองใช้กัน

รูปแรกของที่ Toysrus







รูปล่างของที่ Akachan Honpo แต่เหมือนจะเยอะกว่านี้นิดนึง พอดีช่วงนั้นที่ได้มาก็กระจายไปเก็บ ๆ ไว้ที่อื่น ก็เลยจำไม่ได้แล้วว่าอันนี้ของที่ไหนอะไรยังไง



แล้วของที่ Akachan Honpo ก็จะมีส่งโบชัวร์มาให้ที่บ้าน บางทีในนั้นก็จะมีคูปอง ประมาณว่าถ้าซื้ออันนี้จะได้พ้อยท์เพิ่มอีก 10 เท่า แล้วก็มีคูปองส่วนลดเมื่อซื้อเท่านี้เยนขึ้นไป คูปองพ้อยท์ฟรี 100 พ้อยท์ เป็นต้น  บางทีเราก็ไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร ก็ยื่นคูปองที่ได้มาให้แคชเชียร์ดูว่าอันไหนใช้ได้ ถ้าอันไหนใช้ได้พนักงานเขาก็จะฉีกไป   เราจะได้ไม่เสียสิทธิ์อะเนอะ







วันอังคารที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2557

ค่าซักรีดเสื้อผ้าหน้าหนาว (ต่อ)

จากที่เคยเขียนเรื่องค่าซักรีดเสื้อผ้าหน้าฤดูใบไม้ผลิ หรือไบไม้ร่วง ที่ส่งร้านซักรีดไปเมื่อปีที่แล้ว (ตามลิ้งค์ด้านล่าง)


http://jipathajapan.blogspot.jp/2013/09/blog-post.html


วันนี้ก็ขอเพิ่มเติมในส่วนของเสื้อผ้าหน้าหนาวที่ตอนนี้หมดฤดูไปแล้ว ก็ต้องซักแล้วก็เก็บสำหรับใช้ในฤดูหนาวครั้งต่อไป
อย่างที่เราส่งให้ร้านซักก็จะมี
- เสื้อขนเป็ด (ซื้อจากที่ไทย) ภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า 「ダウンハーフコート」 ราคาซักรีดอยู่ที่ 2,400 เยน (ยังไม่รวมภาษีผู้บริโภค)
-  เสื้อกันหนาวผ้าคล้าย ๆ ผ้านวม ภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า 「ジャンパ」ราคาซักรีดอยู่ที่ 800 เยน (ยังไม่รวมภาษีผู้บริโภค)
-  หมวกที่ติดมากับเสื้อกันหนาวผ้าคล้าย ๆ ผ้านวม ภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า 「フード」ราคาซักรีดอยู่ที่ 100 เยน (ยังไม่รวมภาษีผู้บริโภค)
-  ผ้าห่มขนปุย ๆ ผืนเท่ากับเตียง 3 ฟุต ในที่นี้ทางร้านจะเรียกว่า 「ベビー毛布」ราคาซักรีดอยู่ที่ 600 เยน (ยังไม่รวมภาษีผู้บริโภค)
-  ผ้าห่มขนปุย ๆ ผืนเท่ากับเตียงควีนไซส์ ในที่นี้ทางร้านจะเรียกว่า 「毛布ダブル」ราคาซักรีดอยู่ที่ 1,100 เยน (ยังไม่รวมภาษีผู้บริโภค)


สำหรับที่บ้านเราก็จะมีประมาณเท่านี้สำหรับเสื้อผ้า ผ้าห่มที่ใช้ตอนหน้าหนาว ที่ส่งให้กับทางร้าน
เสื้อผ้าพวกนี้ก็จะรอเก็บเข้าลิ้นชักอย่างเดียว ก็เลยไม่รีบเท่าไหร่ เราก็จะอาศัยรอโปรโมชั่นลด 50 % จากทางร้าน เพราะจะได้ประหยัดค่าใช้จ่ายได้นิดหน่อยก็ยังดี แต่เราก็ไม่รุ้เหมือนกันว่าร้านอื่นจะมีโปรฯ แบบนี้เหมือนกันหรือเปล่า  แต่การใช้โปรฯ ก็อาจจะใช้เวลาในการซักมากกว่าการไม่ได้ใช้โปรฯ
แต่เรารอได้เพราะอย่างที่บอกไม่ได้รีบใช้ อิอิ

























วันจันทร์ที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2557

ตรวจครรภ์ครั้งที่ 7 ที่โรงพยาบาลญี่ปุ่น (อายุครรภ์ 26 สัปดาห์กว่า ๆ)

วันนี้ไปโรงพยาบาลมีนัดตรวจครรภ์ครั้งที่ 7 (อายุครรภ์ 26 สัปดาห์กว่า ๆ)
ไปถึงโรงพยาบาล ก็ยื่นบัตรนัด บัตรคนไข้ สมุดสุขภาพแม่และเด็ก สมุดช่วยค่าตรวจ  ยื่นบัตรประกันสุขภาพ(ทางโรงพยาบาลใช้หรือเปล่าไม่รู้ แต่ยื่นไว้ก่อน)
แล้วก็ไปเก็บปัสสาวะ ยังไม่ทันที่จะไปวัดความดันเลย พยาบาลก็เรียกเข้าห้องตรวจแล้ว ครั้งนี้เร็วมาก ๆ
ชั่งน้ำหนักอยู่ที่ 65.1 กิโล (ครั้งที่แล้ว 64.5) ครั้งนี้ไม่โดนดุเรื่องน้ำหนัก เพียงแต่คุณหมอบอกให้คุมให้ได้แบบนี้ตลอด
จากที่ยังไม่ได้วัดความดัน พยาบาลเลยมาวัดเองเลย ปกติไม่มีปัญหาอะไร
แล้วคุณหมอก็แจ้งผลตรวจเลือดที่เก็บไปครั้งที่แล้วว่าไม่มีปัญหาอะไร (เช็คว่ามีเชื้อมะเร็งเม็ดเลือดขาวหรือไม่ เพราะสามารถติดได้ทางการให้นมแม่
นำไป เช็คว่าเลือดจางหรือไม่  และเช็คค่าน้ำตาลในเลือด)
แล้วก็อัลตราซาวด์ ที่คุณหมอดู ๆ จะมีดูขนาดของหัว ส่วนท้อง แขน ขา ปกติ ไม่มีปัญหาอะไร แต่คุณหมอจะทักว่าเด็กตัวใหญ่ไปหน่อย คงเพราะแม่สูงด้วยมั้ง แล้วก็บอกว่าให้แม่อย่าอ้วนเกินไป จากนั้นก็ให้ฟังเสียงหัวใจเต้น ปกติดี


จากนั้นก็มาคุยกับคุณหมอเรื่องว่าจะเลือกคลอดแบบไหน เพราะทางโรงพยาบาลมีแพลนมาให้เลือก แล้วก็ให้ส่งให้กับทางโรงพยาบาลตั้งแต่อายุครรภ์ที่ 28 -36
ในแพลนก็จะมี
1. คลอดแบบธรรมชาติมาก ๆ คือจะไม่ใช้ยาใด ๆ เลย
2. คลอดแบบธรรมชาติที่สามารถเลือกวันคลอดเองได้ แต่จะมีการใช้ยา ฉีดยาชา อะไรประมาณนี้
3. คลอดโดยที่ให้สามีเข้าห้องคลอดด้วย แต่ว่าถ้าเป็นช่วงตอนกลางคืน สามีจะเข้าไปด้วยไม่ได้
ซึ่งเราก็คิดไว้แล้วหล่ะว่าจะเลือกแพลนข้อที่ 1 และ 3
แต่เราก็กลัวเจ็บท้องนาน ก็เลยปรึกษาคุณหมอ คุณหมอก็บอกโรงพยาบาลนี้ส่วนใหญ่จะคลอดแบบข้อที่ 1 แต่ถ้าดู ๆ แล้วแต่กรณีว่าเจ็บท้องนานเกินไปก็ขึ้นอยู่กับคุณหมออาจจะเปลี่ยนเป็นแบบข้อที่ 2 คือใช้ยาช่วยได้ แต่ต้องให้สามีเซ็นชื่อรับรองการเปลี่ยนแปลงด้วย
คุณหมอก็บอกว่ายังไม่ต้องรีบส่งใบนี้ก็ได้ รอให้ 36 สัปดาห์ก็ได้ แต่พอ 36 สัปดาห์ไปแล้วควรที่จะออกกำลังกายให้บ่อยขึ้น


แล้วก็มาถามคุณหมอเรื่องสายตาที่มองไม่ค่อยชัดมากขึ้นเวลาอ่านหนังสือ คุณหมอก็บอกว่าถ้าเรามองได้แค่ระยะตรงอย่างเดียว โดยที่การมองเห็นด้านข้างซ้ายขวามีปัญหาแล้วหล่ะก็ไม่ดี  แต่ถ้ามองไม่ค่อยชัดมากขึ้นเวลาอ่านหนังสือคงไม่มีปัญหาอะไร


แล้วก็ถามคุณหมอเรื่องปวดสะโพก ท่าทางคนญี่ปุ่นคงไม่ค่อยมีปัญหาเท่าไหร่มั้ง เพราะพอบอกคุณหมอไป คุณหมอก็งงๆ เหมือนไม่ค่อยเคยเจอแล้วก็เลยบอกมาว่า สรีระระหว่างคนไทยกับญี่ปุ่นไม่เหมือนกัน อย่างเราตัวสูง กระดูกเชิงกรานก็จะใหญ่ เพราะฉะนั้นก็เลยขยาย ก็เลยทำให้ต้องรับน้ำหนักของท้องมากขึ้นก็เลยทำให้ปวด


ก็เป็นอันจบการตรวจเพียงแค่นี้ นัดครั้งต่อไปอีก 2 สัปดาห์
ค่าตรวจครั้งนี้ 2,020 เยน